ตลาดรับสร้างบ้านผันผวน HBA เปิดฉาก EXPO กระตุ้นดีมานด์ปลายปี

ตลาดที่อยู่อาศัยไทยยังไม่หลุดพ้นจากแรงกดดันทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง แม้สัญญาณบางด้านเริ่มคลี่คลาย แต่การฟื้นตัวยังคงไม่ชัดเจนพอจะสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจลงทุนก้อนใหญ่ได้โดยง่าย ขณะเดียวกันปัญหาต้นทุนวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่ขาดแคลนยังคงเป็นเงื่อนไขที่ทุกฝ่ายต้องเผชิญ

การจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ EXPO 2025” ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) จึงถูกมองไม่เพียงเป็นงานมหกรรมด้านการสร้างบ้าน แต่ยังเป็น “บททดสอบ” ของอุตสาหกรรมในการสร้างแรงซื้อและฟื้นความเชื่อมั่นในช่วงปลายปี

นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า งานครั้งนี้จัดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะฟื้นตัวช้า เศรษฐกิจไทยเองก็ยังมีความไม่แน่นอน แต่ปัจจัยทางการเมืองที่เริ่มนิ่งขึ้นหลังรัฐบาลใหม่เข้ามา ถือเป็นสัญญาณบวกต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง “คนละครึ่ง” และงบประมาณลงทุนใหม่จะช่วยพยุงกำลังซื้อในไตรมาสสุดท้ายของปี ขณะที่ตลาดทุนที่เริ่มฟื้นตัวก็สะท้อนว่าผู้บริโภคกลุ่มกลางบนเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของตลาดรับสร้างบ้าน

“ผู้ที่กำลังตัดสินใจสร้างบ้านมักมีเงินออมพร้อมอยู่แล้ว สิ่งที่ขาดคือความมั่นใจต่อเศรษฐกิจและการเมือง เมื่อเห็นว่าทิศทางเริ่มชัดเจน พวกเขาก็พร้อมเดินหน้า” นายอนันต์กรกล่าว

ข้อมูลจาก HBA ยังระบุว่า ตลาดรับสร้างบ้านปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 210,000 ล้านบาท โดยยอดขายของสมาชิกสมาคมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท หรือราว 5% ของตลาดรวม ซึ่งกระจุกตัวในกรุงเทพฯ และปริมณฑลราว 20% ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดครองสัดส่วนสูงถึง 80% และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะบ้านระดับราคาตํ่ากว่า 5 ล้านบาทยังเป็นที่ต้องการมากที่สุด

ทั้งนี้ บริษัทสมาชิกในสมาคมฯ ส่วนใหญ่มีตลาดบ้านระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไปเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ในครึ่งปีแรก ตลาดบ้านหรูระดับ 30 ล้านบาทขึ้นไปหดตัวลงราว 15% สะท้อนว่ากำลังซื้อกลุ่มบนยังขาดความเชื่อมั่น แม้จะมีเงินออมเพียงพอ แต่ชะลอการตัดสินใจรอความชัดเจนทางเศรษฐกิจและการเมือง อย่างไรก็ดีตั้งแต่ไตรมาสสอง สัญญาณเริ่มดีขึ้น โดยยอดติดลบลดเหลือราว 10% และสมาคมฯ มองว่าไตรมาสสามจะดีขึ้นเป็นลบเพียง 5% ก่อนที่ไตรมาสสี่จะมีโอกาสกลับมาเป็นบวก หากการเมืองยังคงนิ่งและงาน EXPO 2025 ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้จริง

ด้านแรงงานก่อสร้างยังเป็นโจทย์ยากที่ผู้ประกอบการต้องรับมือ ปัจจุบันกว่า 90% ของแรงงานในอุตสาหกรรมเป็นแรงงานต่างด้าว ทั้งพม่า กัมพูชา และลาว โดยส่วนหนึ่งยังอยู่นอกระบบ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนด้านคุณภาพและต้นทุน 

สมาคมฯ ยังแนะนำให้สมาชิกเร่งใช้เทคโนโลยีและระบบ Project Management เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดการพึ่งพาแรงงานมากเกินไป ควบคู่กับการพัฒนาคู่มือการก่อสร้างและฝึกอบรมช่างให้ได้มาตรฐานเดียวกัน เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว

อีกทั้ง มาตรการภาครัฐ เช่น ข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ให้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 50% แม้ไม่ส่งผลตรงต่อตลาดรับสร้างบ้าน แต่ก็มีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจสร้างบ้านง่ายขึ้น เนื่องจากภาระด้านภาษีลดลง ขณะเดียวกันสมาคมฯ ยังผลักดันให้มีมาตรการสนับสนุนสินเชื่อที่เอื้อต่อผู้ต้องการสร้างบ้านมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนวัสดุก่อสร้างยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่รออยู่ในอนาคต หากราคายังขยับขึ้นในปี 2569 ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการรักษาต้นทุน “ราคาเดิม” ที่ผู้ประกอบการกว่า 30 รายยืนยันว่าจะไม่ปรับขึ้น แม้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างและค่าแรงจะกดดันหนัก ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะหมดลงปี 2569

เมื่อผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประเมินว่าต้นทุนใหม่จะถูกปรับขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ หมายความว่าผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านในปีนี้จะได้เปรียบในแง่ของต้นทุน ซึ่งกลายเป็นไฮไลท์และโอกาสของผู้บริโภคในงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ EXPO 2025”

ตลอด 5 วันของงาน ระหว่าง 10-14 กันยายน ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี ฮอลล์ 6 ผู้บริโภคจะได้เลือกแบบบ้านมากกว่า 1,000 แบบ ครอบคลุมทุกระดับราคา พร้อมข้อเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจากสถาบันการเงิน รวมทั้งสิทธิประโยชน์จากส่วนลด ของแถม และลุ้นทองคำกว่า 400,000 บาท กิจกรรมเสวนา “สถาปนิกทอล์ก” และ “ฮวงจุ้ยเสริมมงคล” ยังถูกจัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้และแรงบันดาลใจเสริม

งานมหกรรมครั้งนี้ถูกตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 11,000 คน และสร้างยอดขายรวมกว่า 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายในงาน 3,500 ล้านบาท และยอดขายต่อเนื่องอีก 1,000 ล้านบาท รวมถึงการสร้างความมั่นใจในตลาดและการยกระดับมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

“เราต้องการให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่าการสร้างบ้านกับมืออาชีพเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทวัสดุก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกร ไปจนถึงแรงงาน” นายอนันต์กรยํ้า

นายอนันต์กรกล่าวว่า การจัดงาน EXPO 2025 ไม่ได้มีเพียงเป้าหมายในการสร้างยอดขาย4,500 ล้านบาทเท่านั้น แต่ยังต้องการสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมรับสร้างบ้านไทย พร้อมยกระดับการรับรู้ของสังคมถึงการสร้างบ้านกับบริษัทมืออาชีพ เป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่มั่นคงยั่งยืน และยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในหลายมิติ ที่เชื่อมโยงทั้งธุรกิจวัสดุก่อสร้าง วิศวกร สถาปนิก ไปจนถึงแรงงานก่อสร้าง

ในบริบทเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่และความไม่แน่นอนยังรออยู่ข้างหน้า งานมหกรรมครั้งนี้จึงถูกมองว่าอาจจะเป็นโอกาสของผู้บริโภคที่จะสร้างบ้านในต้นทุนเดิม และเป็นความท้าทายสำคัญของอุตสาหกรรมรับสร้างบ้านในการพิสูจน์ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในไทยยังคงแข็งแรงเพียงพอจะนำพาตลาดให้ก้าวข้ามความเปราะบางในปี 2568 ไปสู่การฟื้นตัวในปี 2569

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,131 วันที่ 14-17 กันยายน พ.ศ. 2568