ที่อยู่อาศัยวัยเกษียณมาแรง! เสริมจุดแข็งรับเทรนด์เพื่อสุขภาพ

แม้ธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาจะยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่บริษัท พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มองเห็นโอกาสครั้งสำคัญในตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นางสาวจิราภา สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของพีดีเฮ้าส์ ระบุว่า เทรนด์ที่อยู่อาศัยสำหรับวัยเกษียณเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวในปี 2568

ข้อมูลจากกรมการปกครอง ณ วันที่ 30 เมษายน 2568 ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) รวมกว่า 13.9 ล้านคน คิดเป็น 21.44% ของประชากรทั้งหมด การวางแผนชีวิตหลังเกษียณจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การใช้ชีวิตสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น 

นางสาวจิราภายังเปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในกลุ่มนี้ได้เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อตอบรับเทรนด์ดังกล่าว พีดีเฮ้าส์จึงได้ต่อยอดกลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิดที่มุ่งจะ “สร้างบ้านเพื่ออนาคต”

โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความปลอดภัย สุขอนามัย และความสะดวกในการใช้งานสำหรับกลุ่มวัยเกษียณโดยเฉพาะ แนวคิด “บ้านผู้สูงอายุ” นี้เป็นหนึ่งในสามแนวคิดหลักที่บริษัทวางไว้ ซึ่งได้มีการออกแบบฟังก์ชันและคัดเลือกวัสดุก่อสร้างที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกช่วงวัยได้ครบถ้วน

โดยล่าสุด พีดีเฮ้าส์เตรียมเปิดตัวแบบบ้านซีรีส์ใหม่ Well-Being House II ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันภายใต้แนวคิด “บ้านที่เข้าใจชีวิตของผู้สูงวัย” แบบบ้านมีให้เลือก 6 แบบ ได้แก่ W-534, W-535, W-536, W-537, W-538 และ W-539 มีขนาด 2-3 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำ และพื้นที่ใช้สอย 100-151 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.2-4.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ บ้านของพีดีเฮ้าส์ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยมีการนำนวัตกรรม PD Fresh Airflow มาใช้เพื่อดึงอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้ามาภายในบ้านผ่านระบบกรองอากาศ พร้อมช่วยลดอากาศเสียและป้องกันฝุ่น PM 2.5 สะท้อนให้เห็นว่า “บ้านผู้สูงอายุ” หรือ “บ้านวัยเกษียณ” ที่แท้จริง ไม่ได้เป็นเพียงบ้านที่เหมาะกับคนสูงวัยเท่านั้น แต่ต้องเป็นบ้านที่เข้าใจและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัวสำหรับทุกช่วงวัย