ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดเผยบทวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ–ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2567 และแนวโน้มปี 2568 พบว่า ตลาดยังคงชะลอตัว โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี จำนวนการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่กลับมีมูลค่าลดลง 2.7% จากการเร่งโอนสิทธิ์ช่วงปลายปีตามมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จำนองเหลือ 0.01% โดยเฉพาะในกลุ่มอาคารชุดราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท ที่มีการโอนเพิ่มถึง 16.2% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 19%
ด้านอุปทาน ตลาดยังอยู่ในภาวะซบเซา ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินลดลง 69.9% พื้นที่อนุญาตก่อสร้างลดลง 6.6% โครงการเปิดตัวใหม่ลดลง 45.3% และที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จลดลง 17.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
นอกจากนี้ ปี 2567 ตลอดทั้งปี ยังเห็นการชะลอตัวทั้งอุปสงค์ที่ลดลง 3.8% และอุปทานที่ลดลง 28.4% โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่ซบเซาหนัก ขณะที่อาคารชุดในกรุงเทพฯ และปทุมธานีกลับมีสัญญาณบวกจากการก่อสร้างและการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 เมื่อวิเคราะห์ในแต่ละจังหวัดพบว่า กรุงเทพฯ ยังคงเติบโตได้ดีจากความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในเมือง ขณะที่ปทุมธานีมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการบ้านแนวราบราคาต่ำ นนทบุรีและสมุทรปราการเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวจากอุปทานค้างสะสมในตลาด
ส่วนจังหวัดอย่างนครปฐมและสมุทรสาครแนวโน้มชะลอตัวชัดเจน จากกำลังซื้อที่ลดลงและผลกระทบทางเศรษฐกิจเฉพาะพื้นที่ ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มกระจุกตัวในทำเลที่มีโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อสะดวกมากขึ้น
ทั้งนี้ รายละเอียดเชิงลึกยังชี้ให้เห็นว่าในปี 2567 ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินและพื้นที่ก่อสร้างลดลงในเกือบทุกจังหวัดของปริมณฑล ยกเว้นปทุมธานีและกรุงเทพฯ ที่ยังเติบโต ส่วนโครงการใหม่ในปี 2567 มีจำนวน 62,771 หน่วย ลดลง 34.9% จากปีก่อน โดยคาดว่าปี 2568 จะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นเป็น 73,291 หน่วย
สำหรับแนวโน้มปี 2568 ศูนย์ข้อมูลฯ คาดว่าตลาดจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ปัจจัยหนุนหลักมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.6 แสนล้านบาท การเติบโตของภาคท่องเที่ยว โครงการแก้หนี้ครัวเรือน “คุณสู้ เราช่วย” และการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวระหว่างเดือนพฤษภาคม 2568 ถึงมิถุนายน 2569 โดยคาดว่าอุปทานที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่จะเพิ่มขึ้น 16.8% และการโอนกรรมสิทธิ์จะเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับปี 2567
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงยังคงมีอยู่ ทั้งภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง การเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ และความไม่แน่นอนจากนโยบายเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์โลก เช่น มาตรการตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจกดดันการค้าโลกและเศรษฐกิจไทยได้
ในภาพรวม ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ สรุปว่าตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ–ปริมณฑลในปี 2568 มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังต้องจับตาความเสี่ยงจากทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด