“อสังหา”เบนเข็ม ลุย3 เมืองมหา’ลัย อีสาน

13 พ.ย. 2563 | 06:15 น.

อสังหาฯเบนเข็มลุย3เมืองมหาลัยอีสาน ค่ายใหญ่-ภูธร ชิงปักหมุด มหาสารคาม จุดพลุ เมืองแห่งการศึกษาใหญ่สุด 3 สถาบัน 6 หมื่นคน

 

กลุ่มจังหวัดภาคอีสานกลายเป็นทำเลมาแรง สำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยหลังจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญรวมทั้งกรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบรุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ ดีเวลอปเปอร์ทั้งจากส่วนกลางตลอดจน ในพื้นที่ ให้ความสนใจจับจอง ที่ดินแปลงงามเนื่องจากเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูงแต่ละจังหวัดกำหนดยุทธ์ศาสตร์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย ศูนย์กลางผลิตบุคลากรทางการแพทย์  โรงพยาบาล ศูนย์ราชการเชื่อมกลุ่มCLMV
 

ทั้งนี้พื้นที่ที่กำลังมาแรงและผู้ประกอบการจากส่วนกลางยังปักหมุดลงทุนโครงการน้อยมีเพียง พี่เบิ้ม บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และซีพีแลนด์ ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม เนื่องจาก มีมหาวิทยาลัย 3 สถาบันใหญ่รวมนักศึกษา ราว 6หมื่นคน ขณะที่ประชากรแฝง ข้าราชการที่มีกำลังซื้อ มากถึง 44% เช่นเดียวกับ ขอนแก่น และอุบลราชธานี ที่ มีกำลังซื้อจากคนกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็นจุดแข็งเนื่องจากไม่ใช่เมืองที่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยว
 

จากการให้สัมภาษณ์ของ นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทดีเฮ้าส์พัฒนาจำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE บริษัท ในตลาดหลักทรัพย์น้องใหม่ รายแรกในภาคอีสานและ เป็นเบอร์หนึ่งด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดมหาสารคาม สะท้อนภาพ เมืองในกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน ว่าเป็นเมืองที่ไม่ต้องพึงพานักท่องเที่ยวดังนั้นจึงได้รับกระทบ ต่อสถานการณ์โควิดค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าในจังหวัดมหาสารคาม มีจุดเด่นเป็นเมืองแห่งการศึกษาและศูนย์กลางราชการ
 

              

“อสังหา”เบนเข็ม ลุย3 เมืองมหา’ลัย อีสาน

 

 

อีกทั้งยังมีโครงสร้างพื้นฐานรัฐมาลงจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ บ้านไผ่ นครพนม-มหาสารคาม โครงการก่อสร้างถนนวงแหวน รวมถึงสนามบินแห่งใหม่ที่คาดว่า ตั้งอยู่รอยต่อระหว่าง มหาสารคาม และกาฬสิน ขณะพื้นที่รอบข้างจะมีขอนแก่น ซึ่งเป็นเมืองมหาวิทยาลัยแต่จำนวนนักศึกษามีปริมาณน้อยกว่ามหาสารคาม
 

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีที่ดิน รอพัฒนา เนื้อที่ 74ไร่ ทำเลตรงข้ามมหาวิทยาลัยมหาสารคาม อยู่ระหว่างปรับพื้นที่และพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ ให้เกิดชุมชน ส่วนด้านหน้าจะทยอยพัฒนา เป็น คอนโดมิเนียมและ รีเทล อาคารพาณิชย์สร้างมูลค่าเพิ่มดึงความสนใจ กลุ่มผู้ประครอง เข้าซื้อ คอนโดมิเนียม บ้านแนวราบ เพื่อให้บุตรหลาน อยู่อาศัย ในราคาหอพัก อพาร์ทเมนท์ ซึ่งปัจจุบันให้เช่า 5,000ต่อเดือนแล้ว โดยเริ่มเฟสแรกบ้านจัดสรร 40ไร่ จำนวน 249หน่วย ไตรมาสแรก ปี2564 ภายใต้แบรนด์ U-PARK มูลค่า 607ล้านบาท ตามด้วยโครงการ
 

แกรนด์บิช2 อาคารพานิชย์ 3 ชั้น 40หน่วย พื้นที่ 3 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยศูนย์การค้า และสถานที่ราชการ มูลค่า 127 ล้านบาท ขณะแผน 3-5ปี มีแผนขยาย การพัฒนา ไปยัง จังหวัดขอนแก่นและอุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน โดยในอนาคตมีแผนพัฒนา คอนโดมิเนียมโลว์ไลฟ์ ไม่เกิน 8ชั้น จำนวน 1,500 หน่วย

ด้านบิ๊กเนมส่วนกลาง นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)​ กล่าวว่าสำหรับภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ต่างจังหวัดเมื่อเทียบกับตลาดหลักกทม.และปริมณฑลนั้นยังคงมีทิศทางที่เป็นบวก เนื่องจากกำลังซื้อ ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากนัก โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการแนวราบของจังหวัดที่เศรษฐกิจภายในแข็งแกร่ง ไม่ได้พึ่งพาภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น ภาคอีสาน สอดคล้องกับแผนเปิดโครงการใหม่ของบริษัท ในช่วงปี 2564 ที่จะเน้นขยายตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่อง เป็นสัดส่วนราว 49% และพุ่งเป้าไปที่ทำเลอีสาน
 

หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3627