BCG ปศุสัตว์ไทย

23 มิ.ย. 2565 | 08:44 น.

“ BCG Model” รัฐบาลประกาศเป็น “วาระแห่งชาติ”

หากเอ่ยถึงหลักเศรษฐกิจ “BCG Model” ซึ่งเป็นนโยบายที่ภาครัฐผลักดันการพัฒนาประเทศโดยถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งมีการจัดทำยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564-2569 เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาต่อยอดจากจุดแข็งของประเทศเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจำเป็นต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน
 

"กรมปศุสัตว์” เป็นหน่วยงานสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนางานด้านปศุสัตว์ให้มีความเจริญก้าวหน้า มีประสิทธิภาพได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการบริโภคทั้งภายในประเทศและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังต่างประเทศ จึงถือว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งของภาคเกษตรไทย ซึ่งการดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ล้วนเป็นการตอบสนองนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี 2565 ตามวิสัยทัศน์ “ภาคเกษตรมั่นคง เกษตรกรมั่งคั่ง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน” ที่มีแนวทางการขับเคลื่อนที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้มีความมั่นคง พัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ เน้นส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และส่งเสริมงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน

BCG ปศุสัตว์ไทย

ครั้งแรกในไทย “ปศุสัตว์” ประกวดฟาร์มต้นแบบปศุสัตว์อินทรีย์ BCG Model ประจำปี พ.ศ. 2565 เผยโฉม 13 ฟาร์มต้นแบบ ถอดรหัส ความสำเร็จ อย่างไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม
 

 

กรมปศุสัตว์เล็งเห็นถึงความสำคัญของโมเดลดังกล่าวจึงได้ดำเนินโครงการประกวดฟาร์มต้นแบบปศุสัตว์อินทรีย์ BCG Model ประจำปี พ.ศ. 2565 ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นฟาร์มอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานปศุสัตว์อินทรีย์จากกรมปศุสัตว์  และเป็นการเชิดชูฟาร์มที่ได้นำหลักการ BCG Model มาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์
 

ไขรหัสลับ ปศุสัตว์อินทรีย์ BCG Model

  1. หลักเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-Economy:B) ฟาร์มมีการนำความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มายกระดับฟาร์มให้ได้มาตรฐานสอดคล้องตามหลักการปศุสัตว์อินทรีย์ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร
  2. หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular-Economy;C) มีการนำทรัพยากรและวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์สูงสุด มีความยั่งยืน พึ่งตนเองได้มาก หมุนเวียนปัจจัยการผลิตได้ดี และใช้หลัก zero-waste ในฟาร์ม
  3. หลักเศรษฐกิจสีเขียว (Green-Economy;G) เน้นความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว การประหยัดพลังงาน ลดการปลดปล่อยของเสียจากฟาร์ม รวมทั้งเป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม

BCG ปศุสัตว์ไทย

BCG ปศุสัตว์ไทย

BCG ปศุสัตว์ไทย

เปิดตัว 13 ฟาร์มคว้ารางวัล BCG Model

ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2565 มีฟาร์มปศุสัตว์อินทรีย์ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นฟาร์มต้นแบบจากกรมปศุสัตว์จำนวน 13 ฟาร์ม โดยในจำนวนนี้ ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นระดับยอดเยี่ยม 3 ฟาร์ม ได้แก่ 1.ไร่ผึ้งฝนฟาร์ม ระดับยอดเยี่ยม ประเภทฟาร์มโคนมอินทรีย์ , 2. บริษัท ฮิลไทรบ์ ออร์แกนนิคส์ จำกัด ระดับยอดเยี่ยม ประเภทฟาร์มไก่ไข่อินทรีย์, 3. ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์มหาสารคาม ระดับยอดเยี่ยม ประเภทแปลงพืชอาหารสัตว์อินทรีย์
 

นอกจากนี้ ยังมีฟาร์มต้นแบบที่ผ่านการคัดเลือกอีก 10 ราย ได้แก่

  • ฟาร์มโคนมอินทรีย์ต้นแบบ 1) โคบาลฟาร์ม 2) ฟาร์มสาธิตแดรี่โฮม 3) อรพรรณฟาร์ม
  • ฟาร์มไก่ไข่อินทรีย์ต้นแบบ 1) สถานีเกษตรหลวงปางดะ 2) ฟาร์มวังไทร 3) ภูเชียงทา ออร์แกนิค ฟาร์ม
  • แปลงพืชอาหารสัตว์อินทรีย์ต้นแบบ 1) ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สกลนคร 2) ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สระแก้ว
    3) ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์เชียงใหม่ 4) ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์กาญจนบุรี
     

สำหรับฟาร์มเหล่านี้เป็นต้นแบบที่เด่นชัดในการนำหลัก BCG Model มาใช้ปฏิบัติจริงในฟาร์มให้เกิดเป็นรูปธรรมจนเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยการทำปศุสัตว์อินทรีย์นั้น มุ่งเน้นให้เกษตรกรใช้สารจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพรไทย เพื่อลดการนำเข้าปัจจัยการผลิตสารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมีและยาสัตว์ เลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะ
 

นอกจากนี้ผู้บริโภคยังได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย ปราศจากสารพิษตกค้าง อีกทั้งยังสอดรับตาม BCG Model ได้อย่างลงตัว ทั้งนี้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการที่สนใจศึกษางานในฟาร์มต้นแบบที่ได้รับรางวัลหรือต้องการรับทราบข้อมูลการรับรองปศุสัตว์อินทรีย์ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดท้องที่ ได้ทุกแห่ง