ธนกร ชี้ยุบสภา 21 มี.ค.เป็นไปได้ อยู่ที่นายกฯ มั่นใจ"2ป."สัมพันธ์แน่นแฟ้น

28 ก.พ. 2566 | 02:47 น.

ธนกร"ชี้กระแสยุบสภา 21 มี.ค.เป็นไปได้ทั้งนั้น อยู่ที่นายกฯ มั่นใจ"2ป."คบกันมา 50 ปี สัมพันธ์แน่นแฟ้น เผยรวมไทยสร้างชาติ มีอดีต ส.ส. กว่า 40 คนแล้ว

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวยุบสภาในวันที่ 21 มี.ค. ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเรื่องนี้หรือไม่ ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่เป็นไปได้ทั้งนั้น อยู่ที่นายกฯ 

นายธนกร กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมาพรรค รทสช.มีการเปิดตัวอดีต ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 19 คนและวันที่ 1 มี.ค.จะมีการเปิดตัวอีก 20 กว่าคน สะท้อนว่า รทสช.มี ส.ส.อยู่ประมาณ 40 คน

ที่วิจารณ์กันว่า รทสช.จะได้ส.ส.ไม่เกิน 25 คนนั้น วันนี้มีประมาณ 40 คนแล้ว คำพูดดังกล่าวคงไม่ใช่ และจากการลงพื้นที่ร่วมกับนายกฯประชาชนให้การต้อนรับดีมาก เพราะเห็นผลงาน แล้วยิ่งฝ่ายค้านปราศรัยดิสเครดิตนายกฯว่าไม่มีผลงาน คะแนนยิ่งเพิ่มขึ้น 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

ถามว่า หลังการเลือกตั้ง เป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะทิ้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไปจับมือกับฝ่ายค้านปัจจุบัน

นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่ก้าวล่วง แต่ขอยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองท่าน ความเป็นพี่เป็นน้องที่คบกันมา 40-50 ปี ตนรู้จักพล.อ.ประวิตรมา 2-3 ปี ยังเคารพรักท่านขนาดนี้ นับประสาอะไรกับคนที่อยู่กันมา 40-50 ปี มั่นใจไม่มีการทิ้งกันอยู่แล้ว ทั้งสองท่านอยู่ที่จิตใจ ความรักความผูกพันมันมั่งคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวถามว่า บัตรสวัสดิการพลัส รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าจะนำงบประมาณมาจากไหน นายธนกร กล่าวว่า "รู้สิครับเพราะนายกฯเป็นคนดูเรื่องงบประมาณ บริหารประเทศมา 7-8 ปี ทุกโครงการต้องผ่านนายกฯ สำนักงบประมาณขึ้นตรงกับท่าน จึงรู้ตัวเลขของงบประมาณ

และท่านพูดเสมอว่าต้องทำได้จริงๆ ต้องมีงบประมาณจริงๆ  ท่านไม่ต้องการให้แต่ละพรรคพูดนโยบายที่ใช้งบประมาณจำนวนมากแต่ไม่บอกว่านำเงินมาจากไหน"

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตบัตรสวัสดิการพลัสเป็นการเกทับนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน นายธนกร กล่าวว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีมาตั้งแต่ปี 2559 เป็นแนวคิดที่นายกฯคิดร่วมกับทีม ดังนั้น แต่ละพรรคนำไปกำหนดเป็นนโยบายได้ อย่ามองว่าเป็นการเกทับ