นายกฯ สั่งด่วน เร่งชงโครงการสำคัญเข้าครม. ก่อนยุบสภา ช้าตกขบวน

21 ก.พ. 2566 | 10:29 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งด่วนทุกหน่วยงานเร่งชงโครงการสำคัญเข้าครม. ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ก่อนรัฐบาลยุบสภาต้นเดือนมีนาคม 2566 หากช้าตกขบวน

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศชัดหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ เตรียมประกาศ “ยุบสภา” ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2566 เพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไป โดยยึดไทม์ไลน์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเลือกตั้งเอาไว้ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า นายกรัฐมนตรี ได้หารือถึงเรื่องความชัดเจนในการจัดการเลือกตั้ง ปี 2566 ซึ่งไทม์ไลน์จะยึดตามที่ กกต. กำหนด คือ วันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้ง โดยในการประชุมครม.ครั้งนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้รองนายกฯ และรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง เร่งกลับไปจัดทำรายละเอียดโครงการเร่งด่วนมาเสนอ ครม.ภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้

สำหรับการจัดเตรียมรายละเอียดโครงการต่าง ๆ มาให้ครม.เห็นชอบในช่วงเวลาที่เหลือก่อนนายกฯ ประกาศยุบสภานั้น นายกฯ สั่งการว่า จะต้องเป็นโครงการสำคัญจริง ๆ เช่น โครงการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน การจ่ายเงินในโครงการตามนโยบายรัฐบาล รวมไปถึงโครงการลงทุนร่วมระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ที่ผ่านขั้นตอนการพิจารณาจากหน่วยงานเสร็จสิ้นแล้ว

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา

“หลังจากการประชุมครม.ครั้งนี้ ทุกหน่วยงานจะมีเวลาอย่างมากที่สุดก็แค่ 2 สัปดาห์ในการเสนอโครงการสำคัญเข้ามาขอให้ครม.อนุมัติ เพราะหลังจากนายกฯ ประกาศยุบสภาแล้ว รัฐบาลจะมีข้อจำกัดในการพิจารณาอนุมัติโครงการต่าง ๆ ที่ไม่สามารถทำได้ในฐานะรัฐบาลรักษาการ ดังนั้นในช่วงที่เหลือจากนี้หน่วยงานต่าง ๆ จึงต้องเร่งเสนอโครงการเข้ามาโดยด่วน”

แหล่งข่าว ยังระบุด้วยว่า อำนาจการอนุมัติโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลน่าจะเหลือแค่ช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้เท่านั้น โดยการประชุมครม. นับจากนี้น่าจะเหลืออย่างน้อยเพียงแค่ 2 ครั้ง คือ วันที่ 28 มีนาคม 2566 และครั้งสุดท้าย คือ วันที่ 7 มีนาคม 2566 หลังจากนั้นก็คาดว่ารัฐบาลจะประกาศยุบสภาต่อไป

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา

ด้าน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แม้ว่ารัฐบาลจะยุบสภา แต่การขังเคลื่อนเศรษฐกิจก็ยังเดินหน้าต่อไป โดยไม่น่าจะเกิดอาการสะดุดอะไร เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้เตรียมการหลายเรื่องเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ