สงบ! ชายแดนไทย-กัมพูชาหยุดยิงแล้วเที่ยงวันนี้ รอดูผลอีก 72 ชม.

27 ธ.ค. 2568 | 06:45 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ธ.ค. 2568 | 06:55 น.

กองทัพภาคที่ 1 แจ้งชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านสระแก้ว ทั้งสองฝ่ายเริ่มหยุดยิงแล้ว ทหารชี้เป็นก้าวสำคัญลดความร้อนแรง หาก 72 ชม. ปลอดเหตุปะทะ ไทยพร้อมคืนทหารกัมพูชา 18 นาย

KEY

POINTS

  • ไทยและกัมพูชาเริ่มดำเนินการหยุดยิงตามแนวชายแดน ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 27 ธันวาคม ตามข้อตกลงในกรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)
  • จะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วง 72 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการวัดความจริงใจของทั้งสองฝ่าย
  • หากสถานการณ์สงบเรียบร้อย ไทยจะดำเนินการส่งคืนทหารกัมพูชา 18 นาย แต่หากมีการละเมิดข้อตกลง กองทัพยังคงเตรียมพร้อมป้องกันตนเองเต็มที่

วันที่ 27 ธันวาคม 2568 รายงานจากกองทัพภาคที่ 1 ระบุว่า สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณจังหวัดสระแก้วมีความคืบหน้าเชิงบวก หลังตรวจสอบเบื้องต้นพบทั้งสองฝ่ายเริ่มดำเนินการ “หยุดยิง” ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน ตามที่ได้ลงนามใน ถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ภายใต้กรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย–กัมพูชา (GBC) เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกันที่จังหวัดจันทบุรี

ก่อนหน้าในช่วงการประชุมที่โรงแรมชาเทรียม จ.จันทบุรี พลอากาศเอก ประภาส สอนใจดี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดเผยว่า ข้อตกลงที่ลงนามมีเป้าหมายหลักเพื่อลดการยั่วยุและความร้อนแรงในพื้นที่ โดยศูนย์แถลงข่าวร่วมจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายกัมพูชา ผ่านสถานทูตและผู้ช่วยทูตทหาร หากพบประเด็นที่อาจขยายความขัดแย้ง พร้อมย้ำว่ากลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) จะเข้ามามีบทบาทรองรับด้วย

พลอากาศเอก ประภาส ระบุว่า การหยุดยิงครั้งนี้ต้องอาศัย ความจริงใจและการติดตามผลอย่างต่อเนื่องในช่วงสำคัญ 72 ชั่วโมงแรก หากสถานการณ์นิ่ง ไม่มีเหตุปะทะหรือการละเมิดเงื่อนไข ไทยจะเดินหน้ากระบวนการ ส่งคืนทหารกัมพูชา 18 นาย ตามที่มีการหารือ แต่หากเกิดความรุนแรงซ้ำ ไทยยังมีสิทธิ์ป้องกันตนเองตามมาตรา 51 ของกฎหมายระหว่างประเทศ

"ไทยไม่ได้เริ่มใช้ความรุนแรง และมีหลักฐานยืนยันตามมาตรฐานสากล เราเลือกสู้ด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่การยั่วยุ" พลอากาศเอก ประภาส กล่าว พร้อมสื่อสารไปยังประชาคมโลกว่าไทยพร้อมทำงานในกรอบสันติภาพและคำนึงถึงชีวิตพลเรือนเป็นสำคัญ

ด้านสถานการณ์ประชาชนในพื้นที่อพยพ ฝ่ายความมั่นคงยืนยันจัดแผนรองรับครบด้าน มหาดไทย-สาธารณสุข-เกษตร พร้อมดูแลอย่างต่อเนื่อง และหากพื้นที่ใดปลอดภัย หน่วยทหารจะประเมินอนุญาตให้ทยอยกลับภูมิลำเนาได้ ทั้งยังย้ำว่าส่วนอื่นของประเทศยังคงปลอดภัย รองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นปกติ

พลอากาศเอก ประภาส ทิ้งท้ายว่า แม้จะเดินหน้าทางการทูตคู่ขนาน แต่กองทัพยังคง สแตนด์บาย 100% ตลอดเทศกาลปีใหม่ พร้อมปกป้องประชาชน หากเกิดการฉีกข้อตกลงหรือไม่จริงใจซ้ำอีก ทุกกลไกเตรียมรองรับทันที