กองทัพไทยเปิดหนังสือกัมพูชาขอเจรจาหยุดยิง ย้ำต้องพิสูจน์ความจริงใจตาม 3 เงื่อนไข
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยหนังสือทางการจาก กัมพูชา ขอเจรจาหยุดยิงผ่านกลไก GBC ภายหลังอาเซียนผลักดันการหารือพิเศษ ไทยย้ำฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงเจตจำนงที่เป็นรูปธรรมตาม 3 เงื่อนไขหลัก ทั้งการประกาศหยุดยิงก่อน ยุติการใช้กำลัง และความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยเตรียมจัดประชุม GBC ระหว่างวันที่ 24-27 ธันวาคมนี้ ที่จังหวัดจันทบุรี
24 ธันวาคม 2568 - เพจเฟซบุ๊ก กองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์หนังสือกัมพูชาพร้อมระบุว่า กัมพูชาส่งหนังสือทางการขอเจรจาหยุดยิงตามกลไก GBC ไทยย้ำต้องพิสูจน์ความจริงใจตาม 3 เงื่อนไขหลัก
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงจุดยืนต่อเงื่อนไขการหยุดยิง บริเวณพื้นที่ชายแดน โดยระบุให้ฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงเจตจำนงผ่านการปฏิบัติ 3 ประการ ได้แก่ การประกาศหยุดยิงก่อน การยุติการใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง และความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นรูปธรรมนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย เพื่อแสดงความประสงค์ในการเจรจาหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญภายใต้กรอบเงื่อนไขที่ไทยกำหนด
ทั้งนี้ จากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา นำไปสู่การจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ตามข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ธันวาคม 2568 ที่จังหวัดจันทบุรี โดยฝ่ายไทยมี พลเอกณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร และฝ่ายกัมพูชา มี Major General Nhem Boraden เป็นหัวหน้าคณะการประชุมฯ
สำหรับรายละเอียดในหนังสือที่กัมพูชา ส่งมาถึงไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ลงนามโดยพลเอกเตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ถึง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและ ประธานร่วมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) ฝ่ายไทย ระบุว่า
ข้าพเจ้าขออ้างถึงถ้อยแถลงของประธานอาเซียน จากการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ ว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2025 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งยินดีต่อการหารือเกี่ยวกับการกลับมาปฏิบัติตามการหยุดยิงและการยุติการสู้รบ โดยในประเด็นนี้ กัมพูชาเห็นชอบกับข้อเสนอให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 24 ธันวาคม 2025
สอดคล้องกับถ้อยแถลงของประธานอาเซียนดังกล่าว ข้าพเจ้าขอเสนอแนวทางดังต่อไปนี้
1. การประชุม GBC ครั้งนี้ ควรจัดในรูปแบบเดียวกับ “การประชุม GBC สมัยพิเศษ” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2025 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ตามที่ระบุไว้ในข้อ 13 ของบันทึกข้อตกลงการประชุม (Agreed Minutes)
2. ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง จากการสู้รบที่ยังดำเนินอยู่ตามแนวชายแดน การประชุมครั้งนี้ควรจัดขึ้นในสถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นกลาง ทั้งนี้ มาเลเซียได้ตกลงเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
3. วาระการประชุมควรประกอบด้วย 4 ประเด็น ดังต่อไปนี้
a) การยุติการสู้รบทั้งหมดโดยทันที และการเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วน ตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2025 และปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์ วันที่ 26 ตุลาคม 2025 รวมถึงข้อตกลงอื่น ๆ ที่ได้จัดทำขึ้นภายใต้กรอบดังกล่าว
b) การอำนวยความสะดวกให้พลเรือนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบ สามารถเดินทางกลับสู่ที่อยู่อาศัยและดำรงชีวิตตามปกติอย่างปลอดภัย สมศักดิ์ศรี และโดยปราศจากการขัดขวาง นัยยะเดียวกับช่วงเวลาก่อนเกิดการสู้รบ
c) การแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติวิธี ผ่านการกลับมาดำเนินการตามปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2025 อย่างเต็มรูปแบบโดยทันที และการเร่งฟื้นฟูกลไกที่มีอยู่ภายใต้กรอบนี้ รวมถึงการปักปันเขตแดนและการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม
d) การเสริมสร้างบทบาทของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team: AOT) ในการกำกับดูแล การดำเนินการ และการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงอื่น ๆ ภายใต้ปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์