KEY
POINTS
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เสนอแนวคิด “รั้วของชาติยุคใหม่” ปรับระบบทหารเกณฑ์เป็นทหารอาสา 1 แสนคน รับเงินเดือน–พัฒนาทักษะ เสริมความมั่นคงรอบด้าน
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดตัวยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงชุดใหม่ภายใต้แนวคิด “รั้วของชาติยุคใหม่” ชูการปฏิรูประบบกำลังพลครั้งสำคัญ ด้วยนโยบาย “ทหารอาสา” แทนระบบทหารเกณฑ์เดิม เพื่อยกระดับความมั่นคงของประเทศให้สอดรับกับภัยคุกคามยุคใหม่ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และอาชญากรรมข้ามชาติ
อนุทินระบุว่า แนวคิด “รั้วของชาติ” ในมุมมองของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการป้องกันการรุกรานทางทหาร แต่ต้องเป็นระบบป้องกันประเทศแบบบูรณาการ ที่สามารถรับมือภัยคุกคามซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความมั่นคงในชีวิตประจำวันของประชาชน ตั้งแต่ชายแดน เศรษฐกิจฐานราก ไปจนถึงอาชญากรรมข้ามชาติ
รั้วของชาติยุคใหม่จึงครอบคลุมทั้งการปกป้องอธิปไตย การสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายและยาเสพติด การป้องกันการแอบนำเข้าพืชผลทางการเกษตรที่กดราคาผลผลิตเกษตรกรไทย ตลอดจนการปราบปรามเครือข่ายแรงงานเถื่อน สแกมเมอร์ การพนัน และทุนเทาต่างชาติ
หัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์นี้ คือการเปลี่ยนโครงสร้างกำลังพล โดยเสนอให้ ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนเป็นระบบ "ทหารอาสา" เพื่อสร้างกองทัพที่มีคุณภาพจากความสมัครใจ
นโยบายดังกล่าวตั้งเป้าเปิดรับทหารอาสา 100,000 คน เข้ารับราชการเป็นระยะเวลา 4 ปี พร้อมค่าตอบแทนประจำ 12,000 บาทต่อเดือน โดยกำลังพลทุกนายจะได้รับการฝึกทั้งด้านวินัย ความพร้อมทางร่างกาย และการเสริมทักษะอาชีพควบคู่กับการศึกษา เพื่อให้สามารถต่อยอดชีวิตหลังปลดประจำการได้อย่างมั่นคง
อนุทินย้ำว่า ทหารอาสา จะไม่ได้เป็นเพียงกำลังพลชั่วคราว แต่จะมีเส้นทางความก้าวหน้าอย่างชัดเจน สามารถสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นนายสิบ นายร้อย และเติบโตในสายงานทหารได้ในระยะยาว ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพบุคลากรและลดปัญหากำลังพลที่ขาดแรงจูงใจในระบบเดิม
"ทหารอาสาจะไม่ได้เป็นเพียงกำลังพลชั่วคราว แต่จะมีเส้นทางความก้าวหน้าอย่างชัดเจน สามารถสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นนายสิบ นายร้อย และเติบโตในสายงานทหารได้ในระยะยาว ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพบุคลากรและลดปัญหากำลังพลที่ขาดแรงจูงใจในระบบเดิม"
สำหรับยุทธศาสตร์ “รั้วของชาติยุคใหม่” ครั้งนี้ ถูกวางให้เป็นมากกว่านโยบายด้านกลาโหม แต่เป็นการสร้าง เอกภาพระหว่างรัฐบาล กองทัพ และประชาชน เพื่อให้การปกป้องประเทศมีความยั่งยืนและได้รับความเชื่อมั่นจากสังคม
อนุทินเปรียบเทียบนโยบายนี้ว่า เป็นการเปลี่ยนจาก “กำแพงคอนกรีตที่ฝืนสร้างขึ้น” มาเป็น “รั้วที่เติบโตจากความสมัครใจ” ซึ่งไม่เพียงแข็งแรง แต่ยังมีชีวิต พร้อมเติบโตและปกป้องประเทศด้วยความภูมิใจของผู้ที่เลือกเข้ามารับใช้ชาติ