KEY
POINTS
วันนี้ (18 ธันวาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติเห็นชอบคำถามประชามติ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นคำถามของคณะรัฐมนตรี และส่งไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นไปตามความเห็นที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีระบุไว้ก่อนหน้านี้
ส่วนกรณีรองนายกฯ บวรศักดิ์ ระบุว่า หากรัฐสภาเลือกคำถามประชามติของพรรคภูมิใจไทย จะไม่ทำให้เกิดปัญหาจนต้องมาประชุมครม.อีกครั้งในวันนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำถามคล้าย ๆ กัน เพียงแต่วันนี้ต้องการทำให้ถูกต้องตามคำวินิจฉัยศาลธรรมนูญ เพราะหากส่งไปไม่ถูกต้องจะเกิดปัญหาเรื่องการตีความ และหากประชาชนลงมติไปแล้วเกิดปัญหาจะต้องลงมติใหม่อีก
“ตอนนี้เรามีเวลามากเพียงพอที่จะดำเนินการให้ถูกต้อง และมีการรับรองจากทุกฝ่ายด้วย”นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ในการทำประชามติจะทำพร้อมกับวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ กกต. แต่ถ้าถามครม. ก็อยากให้ทำพร้อมกับวันเลือกตั้ง เพราะมีเหตุผลเรื่องความสะดวก และประหยัดงบประมาณ เท่าที่ฟังมาคือประมาณ 4,000 ล้านบาท จึงไม่อยากเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ
อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่า ขณะนี้ไม่สามารถทำประชามติเกี่ยวกับการยกเลิกเอ็มโอยู 43-44 แล้ว พรรคภูมิใจไทยจะทำเป็นนโยบายหาเสียงในเรื่องนี้แทนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นไปได้ เพราะพรรคชัดเจนเรื่องนี้อยู่แล้ว
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงรายละเอียดว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบกรอบการดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติครั้งที่หนึ่ง เพื่อขอความเห็นชอบจากประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ครม. เห็นชอบให้กำหนดวันออกเสียงประชามติเป็นวันเดียวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เนื่องจากเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างคุ้มค่า ลดภาระงบประมาณ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยไม่ต้องเดินทางมาใช้สิทธิหลายครั้ง พร้อมทั้งช่วยลดภาระการจัดการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
สำหรับประเด็นคำถามในการออกเสียงประชามติ คณะรัฐมนตรีมีมติเลือกใช้คำถามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ซึ่งเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 และสอดคล้องกับมาตรา 9 วรรคสอง (2) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 โดยกำหนดคำถามว่า
“ท่านเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่”
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดทำข้อมูลประกอบการออกเสียงประชามติเป็นไปอย่างถูกต้อง ชัดเจน และสอดคล้องกับบริบทของคำถามที่ใช้ คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีปรับปรุงและจัดทำข้อมูลประกอบการออกเสียงประชามติ ก่อนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเผยแพร่แก่ประชาชนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจึงขอเชิญชวนประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเตรียมใช้สิทธิอย่างพร้อมเพรียงในวันดังกล่าว