งบ 9,000 ล้านบาท ทำประชามติแก้รธน.-ยกเลิก MOU ควบเลือกตั้ง สส.

24 ต.ค. 2568 | 04:43 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ต.ค. 2568 | 05:01 น.

นายกฯถก กกต. ทำประชามติแก้ รธน. ยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา พร้อมวันเลือกตั้งปี 2569 คาดใช้งบกว่า 9,000 ล้านบาท ใช้บัตรเลือกตั้ง 4 ใบ

KEY

POINTS

  • รัฐบาลหารือ กกต. ถึงแนวทางการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา ควบคู่ไปกับการเลือกตั้ง สส.
  • คาดการณ์งบประมาณหากจัดพร้อมกันจะอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งประหยัดกว่าการจัดแยกกันที่อาจใช้งบประมาณเกิน 10,000 ล้านบาท
  • ประชาชนอาจต้องลงคะแนนด้วยบัตรถึง 4 ใบ (เลือกตั้ง 2 ใบ และประชามติ 2 ใบ) ซึ่งอาจสร้างความสับสนและต้องมีการบริหารจัดการที่รัดกุม

วันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อหารือแนวทางจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ไทย–กัมพูชา ปี 2543 และ 2544 ให้จัดพร้อมกับวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 

                     งบ 9,000 ล้านบาท ทำประชามติแก้รธน.-ยกเลิก MOU ควบเลือกตั้ง สส.

การประชุมซึ่ง มี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธาน ร่วมด้วย นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และ คณะกรรมการกกต. ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น มีสื่อมวลชนปักหลักติดตามจำนวนมาก 

ภายหลังการหารือ นายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนเบื้องต้น เกี่ยวกับแนวทางและความเป็นไปได้ของการจัดประชามติในวันเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งในมิติของกระบวนการ งบประมาณ และความพร้อมของเจ้าหน้าที่ โดยยังไม่ได้ลงรายละเอียดถึงขั้นตัดสินใจใด ๆ 

                         งบ 9,000 ล้านบาท ทำประชามติแก้รธน.-ยกเลิก MOU ควบเลือกตั้ง สส.

สำหรับจำนวนบัตรเลือกตั้ง เบื้องต้นจะมี 2 ใบ คือ บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ส่วนบัตรออกเสียงประชามติ หากมีทั้งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยกเลิก MOU ไทย–กัมพูชา 2 ฉบับ คาดว่าจะต้องใช้เพิ่มอีก 2 ใบ รวมเป็น 4 ใบ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนสับสนได้ จึงต้องออกแบบระบบบริหารจัดการให้รัดกุมและเข้าใจง่ายที่สุด ทั้งต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย

นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายประชามติ ไม่ว่าจะเป็นฉบับเก่าหรือฉบับใหม่ โดย พ.ร.บ.ประชามติฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้แล้ว เปิดทางให้สามารถจัดทำประชามตินอกราชอาณาจักรได้เป็นครั้งแรก ซึ่งจะนำมาใช้ในครั้งนี้ด้วย ส่วนขั้นตอนการนับคะแนนยังต้องหารือร่วมกันภายหลังว่าจะดำเนินการอย่างไร 

ด้านงบประมาณ คาดว่าหากจัดประชามติและการเลือกตั้งในวันเดียวกัน จะใช้งบประมาณรวมประมาณ 9,000 กว่าล้านบาท แต่หากจัดแยกกันจะต้องใช้งบเกิน 10,000 ล้านบาทขึ้นไป โดยคำนวณจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 53 ล้านคนในปี 2569 จึงถือว่าการจัดควบประหยัดกว่าแน่นอน

                          งบ 9,000 ล้านบาท ทำประชามติแก้รธน.-ยกเลิก MOU ควบเลือกตั้ง สส.

ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวยืนยันต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะทำประชามติเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ และการยกเลิก MOU 43–44 ตามที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา แม้จะมีเสียงท้วงติงจากนักวิชาการและนักการเมืองบางส่วนก็ตาม 

พร้อมระบุว่า จากนี้จะตั้งคณะทำงานร่วมกับ กกต. โดยมีนายบวรศักดิ์และ นายภราดร ทำหน้าที่กำหนดรายละเอียดการดำเนินงาน เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าโดยเร็วที่สุด 

นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องเร่งดำเนินการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพราะตามโรดแมปการเมืองปัจจุบัน รัฐบาลจะครบวาระ และ ยุบสภาภายในวันที่ 31 มกราคม 2569