KEY
POINTS
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ทำหนังสือ “ด่วนที่สุด” ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อแจ้งความประสงค์ของนายกรัฐมนตรี ในการนำคณะผู้แทนฝ่ายบริหารเข้าพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อหารือแนวทางการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และการพิจารณายกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา จำนวน 2 ฉบับ ประกอบด้วย
1. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (MOU ปี 2543)
2. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ไหล่ทวีปที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิทับซ้อนกัน (MOU ปี 2544)
หนังสือดังกล่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์จะเข้าพบหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00-11.00 น. ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
การเข้าพบครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อกำหนดแนวทางและขั้นตอนการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมทั้งหารือถึงกรอบการดำเนินการกรณีการยกเลิกบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา ทั้งสองฉบับ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นในการทบทวนนโยบายด้านความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่วันที่ 17 ตุลาคม 2568 ที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรัฐ (สลค.) ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือแนวทางการยกเลิก MOU 43-44 โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา MOU 43-44 สภาผู้แทนราษฎร พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เข้าร่วม
พล.ท.อดุลย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นแค่การหารือกันเบื้องต้น ไม่มีอะไรเลย ส่วนรายละเอียดให้สอบถาม นายบวรศักดิ์ ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวงยุติธรรม ปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียดผลการประชุม และให้ไปสอบถามนายบวรศักดิ์ เช่นกัน
ขณะที่ นายบวรศักดิ์ ได้เดินมาขึ้นรถที่ลานจอดชั้นใต้ดิน เพื่อเดินทางออกจากตึก สลค. ผู้สื่อข่าวได้พยายามตะโกนสอบถามถึงผลการหารือ นายบวรศักดิ์ จึงลดกระจกรถยนต์ลง และตะโกนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ถึงเวลาจะพูด”
ทั้งนี้มีรายงานว่า การประชุมในวันนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเป็นการหารือเรื่องข้อดีข้อเสีย และแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งกองทัพเป็นผู้เสนอ และหลังจากนี้จะให้หน่วยงานต่างๆ แยกย้ายไปทำข้อมูล เพื่อนำกลับมาส่งให้กับรัฐบาล
นายไชยชนก ชิดชอบ กล่าวภายหลังการหารือแนวทางการยกเลิกMOU 2543-2544 ว่า การประชุมทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน ทำหน้าที่ได้ดีมาก เห็นได้ถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งฝั่งความมั่นคง และรัฐบาล ทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งรัฐบาลและประเทศไทยจะมีความพร้อมมากขึ้น และไม่ว่าผลของการทำประชามติ จะออกมาในรูปแบบใดจะทำให้เราได้เปรียบมากขึ้นในทุกสถานการณ์ และหลังจากนี้ทุกฝ่ายจะกลับไปทำการบ้านมา
ส่วนข้อสรุปการยกเลิก MOU 2543 และ2544 จะใช้มติคณะรัฐมนตรี หรือ การทำประชามติขอความเห็นประชาชน นายไชยชนก ตอบว่า ปัจจุบัน ยังเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล คือ การทำประชามติ แต่ได้มีการเตรียมความพร้อมรับผลของประชามติ จะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก หรือ ต้องปรับปรุง รวมถึงด้านต่างประเทศ หากเกิดการเปลี่ยนแปลง
“ยกเลิก MOU หรือ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น เรามีความพร้อม ดังนั้น การประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ ทิศทางเป็นไปในทางบวก และไทยพร้อมรับมือมากขึ้นกับทุกสถานการณ์ พร้อมย้ำว่า สถานการณ์จะดีขึ้นแน่ เพราะทุกคนกำลังร่วมมือกัน
นายไชยชนก กล่าวด้วยว่า นายบวรศักดิ์ ยังได้กำชับหน่วยงานด้านความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ ให้เตรียมศึกษาสถานการณ์ทุกรูปแบบ และที่ได้รับสารจากที่ประชุมในวันนี้ ต้องให้ความเป็นธรรม ว่าทุกฝ่ายทำตามนโยบายรัฐบาลนั้นๆ
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้แจ้งว่า ที่ผ่านมากระทรวงพยายามทำตามนโยบายทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ไปศาลโลก แต่ขณะนี้ไม่ใช่ว่านโยบายของรัฐบาลจะไปสู้ในศาลโลก แต่ นายบวรศักดิ์ก็ได้ให้นโยบายว่า เราต้องมีความพร้อม ไม่ว่าเรื่องจะไปสู่ศาลโลกหรือไม่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ จะทำการบ้านเพิ่มเติม หากต้องไปศาลโลก เพื่อให้ไทยไม่เสียเปรียบ
ส่วนแนวทางการทำประชามติ จากที่เดิมมีแค่ยกเลิกหรือไม่ยกเลิก จากการประชุมวันนี้ จะมีการเพิ่มเรื่องการปรับปรุง MOU ใช่หรือไม่ นายไชยชนก ตอบว่า ยังมีอีกหลายแนวทางแต่ในรายรายเอียด ขอให้แต่ละฝ่ายไปทำการบ้านเพิ่มเติมเพื่อกลับมานำเสนออีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะเป็นการกดดัน แต่ยืนยันว่า MOU 2543 และ 2544 มีการแยกศึกษาที่ไม่ใช่การเหมารวม ตรงไหนได้เปรียบ หรือมีข้อกังวล ทุกอย่างจะถูกนำมาพิจารณาทั้งหมด
ส่วนแนวทางหากมีการยกเลิก MOU จะเป็นอย่างไร นายไชยชนก กล่าวว่า ที่ประชุมมีการหารือว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อเสนอข้อมูลเชิงลึก พร้อมกับยอมรับว่าหากมีการยกเลิกมีหลายรูปแบบไม่ใช่เพียงการฉีก MOU แต่จะต้องมีการกำหนดระยะเวลาในการยกเลิก