KEY
POINTS
วันที่ 13 ธันวาคม 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงแนวทางการจัดการเลือกตั้งภายหลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ต้องจัดขึ้น “วันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร” ตามหลักการของรัฐธรรมนูญ
นายแสวง อธิบายว่า หากมีการจัดเลือกตั้งไม่พร้อมกันทั่วประเทศ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด จะส่งผลให้การเลือกตั้งตกเป็น “โมฆะ” ตั้งแต่ต้น หมายความว่าผลการเลือกตั้งไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ทั้งในด้านงบประมาณของรัฐ ทรัพยากรของภาคเอกชน ค่าใช้จ่ายของผู้สมัครและพรรคการเมือง ตลอดจนเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศ
เลขาธิการ กกต. ระบุว่า กรณีเกิด “เหตุจำเป็น” ที่อาจทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งตามวันเดิมที่กำหนดไว้ได้ เช่น สถานการณ์ความไม่สงบ เหตุภัยพิบัติ หรือ การประกาศกฎอัยการศึก รัฐธรรมนูญได้กำหนดแนวทางรองรับไว้ชัดเจน โดยมี 2 แนวทางหลัก เพื่อให้ยังคงหลักการเลือกตั้งวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
แนวทางแรก คือ การจัดเลือกตั้งตาม “วันเดิม” ที่ กกต. กำหนดไว้ตามมาตรา 103 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดให้ต้องมีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา โดยใช้หลัก “นำคนไปหาหน่วยเลือกตั้ง” ผ่านการบริหารจัดการในสถานการณ์หรือพื้นที่พิเศษ ทั้งนี้ การนำหน่วยเลือกตั้งไปหาผู้มีสิทธิยังมีข้อจำกัดทางกฎหมายอยู่
แนวทางที่สอง คือ การกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นใหม่ตามมาตรา 104 ของรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่มี “เหตุจำเป็น” จริง ซึ่งการเลื่อนวันเลือกตั้งสามารถทำได้ แต่ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เหตุจำเป็นนั้นสิ้นสุดลง โดยเหตุจำเป็นตามกฎหมายมีลักษณะปลายเปิด แต่การกำหนดวันเลือกตั้งต้องเป็นไปตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างชัดเจน
สำหรับกรณีการประกาศกฎอัยการศึก นายแสวง ย้ำว่า ไม่ถือเป็นเหตุให้เลื่อนการเลือกตั้งโดยอัตโนมัติ เนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึก มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคงของประเทศ อาจประกาศครอบคลุมทั้งประเทศ หรือ เฉพาะบางพื้นที่ก็ได้
ดังนั้น จะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีว่า กฎอัยการศึกแต่ละฉบับมีสาระสำคัญอย่างไร และส่งผลกระทบต่อการจัดการเลือกตั้งในทางปฏิบัติหรือไม่
“ไม่ใช่ว่าทุกการประกาศกฎอัยการศึก จะถือเป็นเหตุจำเป็นตามมาตรา 104 ของรัฐธรรมนูญ ต้องดูว่ากระทบต่อการจัดการเลือกตั้งหรือไม่ หากเข้าข่ายจึงจะนำไปพิจารณาเรื่องการเลื่อนวันเลือกตั้งตามแนวทางที่กฎหมายกำหนดไว้” นายแสวง กล่าว
ทั้งนี้ เลขาธิการ กกต. ย้ำด้วยว่า ไม่ว่าจะมีเหตุจำเป็นหรือไม่ เมื่ออายุสภาสิ้นสุดลงหรือมีการยุบสภา กกต. มีหน้าที่ต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทุกครั้ง ตามมาตรา 102 หรือมาตรา 103 ก่อน จากนั้นจึงจะสามารถนำบทบัญญัติมาตรา 104 มาใช้ได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย