“อภิสิทธิ์”เปิดแคมเปญ “สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้นะ” เชิญชวนลง สส.

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคบางส่วน แถลงเปิดตัวโครงการรับสมัครผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค ภายใต้ชื่อแคมเปญ “สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้นะ” 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวเปิดว่า พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้อง “เริ่มต้นใหม่” และ “แข่งกับเวลา” เพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่อาจรอความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ทุกเรื่อง “เราทำหน้าที่ตามสัตยาบันไปก่อน เพราะเวลาทางการเมืองไม่รอใคร เราจึงเริ่มเชิญชวนคนที่มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง มาร่วมกับเราในเส้นทางการเมืองสุจริต” 

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเทศไทยเผชิญปัญหาเรื้อรังยาวนาน โดยต้นตอมาจาก “การเมืองไม่สุจริต” ซึ่งส่งผลกระทบครอบคลุมตั้งแต่เศรษฐกิจ การทุจริตเชิงนโยบาย เงินทุนสีเทา ไปจนถึงอาชญากรรมข้ามชาติ “ถ้าเรายังปล่อยให้การเมืองแบบนี้ดำรงอยู่ต่อไป บ้านเมืองจะไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้เลย” 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การเมืองในปัจจุบันกลับกลายเป็น “เกมต่อรอง” มากกว่าการแข่งขันเชิงนโยบาย “เราคุยแต่เรื่องว่าใครอยู่พรรคไหน ใครจะย้ายไปไหน และนโยบายที่พูดกันก็มีแต่ตัวเลขท้ายคำว่า “ล้านต่อเขต” ผมไม่เชื่อว่าประเทศไทยจะเดินต่อไปได้ หากยังใช้เงินนำหน้าแบบนี้”

หัวหน้าพรรค ปชป. ระบุว่า พรรคยังไม่ได้อนุมัติผู้สมัครแม้แต่เขตเดียว และวันนี้ถือเป็น “วันนับหนึ่ง” ของการสร้างพรรคขึ้นมาใหม่ 
“ใครที่เชื่อในความสุจริตของการเมือง ใครที่มีของดีในตัวเอง และมีแนวคิดสร้างประเทศ เชิญเลยครับ มาร่วมกับเรา วันนี้เราเริ่มสร้างคน คนสร้างพรรค และ พรรคสร้างประเทศ สส.ที่ดีไม่ต้องรอให้ใครลอยลงมาจากฟ้า คุณเองก็เป็นได้”

พรรคประชาธิปัตย์เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 โดยเน้นเปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายและตั้งใจทำการเมืองอย่างสุจริต

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคจะส่งผู้สมัครครบทุกเขตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า “หากมีคนตอบรับจากทั่วประเทศ ก็ส่งครบแน่นอน” พร้อมเน้นว่า ไม่มีใครเป็นเจ้าของพื้นที่หรือเจ้าของประชาชน “เราจะตั้งต้นการเมืองใหม่ ให้ประชาชนส่งคนดีมาแทนคนที่เขาไม่เชื่อถือ” 

ส่วนคำถามว่าการตั้งต้นใหม่ในสภาวะที่การเมืองใช้เงินซื้อเสียงเข้มข้น จะต่อสู้ได้แค่ไหน นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่า “ก็อยู่ที่ประชาชน” แต่เชื่อว่าจะถึงเวลาที่สังคมต้องเห็นอันตรายของการเมืองแบบทุนครอบงำ “ถ้าเรายังปล่อยไว้ ประเทศก็จะติดกับอยู่แบบนี้ไปตลอด อาจจะทรุดลงด้วยซ้ำ”

ทั้งนี้ การสร้างพรรคใหม่นี้จะมุ่งเน้น 3 ประเด็นใหญ่คือ

1.การเมืองสุจริตเป็นหลักการ

2.เศรษฐกิจต้องเติบโตและมีประสิทธิภาพ

3.แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ความเหลื่อมล้ำ ความยุติธรรม และสิ่งแวดล้อม

“ผมพูดตั้งแต่วันแรกว่า ถ้าไม่สร้างเครื่องจักรที่จะทำให้เศรษฐกิจโต ปัญหาอื่นก็ไม่คลี่คลาย การเมืองต้องสุจริต เศรษฐกิจต้องโต และสังคมต้องยุติธรรม”

เมื่อถามถึงกระแสเลือดไหลออกจากพรรค นายอภิสิทธิ์ ยอมรับตรงไปตรงมาว่า “วันนี้ถือว่าเริ่มจากศูนย์ เพราะยังไม่มีผู้สมัครได้รับการอนุมัติ และบาง สส. ก็พูดชัดว่าจะไม่อยู่ร่วมงานกับผมต่อไป เราไม่ห้ามใครจะไป เพราะแต่ละคนมีสิทธิ์ตัดสินใจ แต่ถ้าอยู่ ก็ต้องอยู่บนแนวทางนี้”

“วันนี้เราต้องสร้างคนใหม่ ใครอยากไปพรรคอื่นก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ใครอยากอยู่ ก็ต้องมาร่วมแนวทางนี้กับเรา ผมตั้งสมมติฐานเลยว่า เริ่มจากศูนย์ สร้างกันใหม่หมด”

เมื่อถามว่าโครงการนี้ชวนคนมาทำงานแบบไหน นายอภิสิทธิ์ยิ้มและตอบสั้นๆ ว่า “ผมไม่โกหกนะครับ โครงการนี้ชวนมาเหนื่อย ไม่ได้ชวนมาสบาย เพราะถ้าไม่เหนื่อย บ้านเมืองก็ไม่ดีขึ้น ถึงเวลาที่เราต้องมาทำการเมืองให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกผู้สมัครในกรณีที่มีผู้สนใจลงสมัครในเขตเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า พรรคจะประกาศหลักเกณฑ์การสรรหาอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ “ผมอยากให้เรามีปัญหานี้จริงๆ เพราะนั่นหมายความว่าคนดีๆ อยากมาร่วมกับเราเยอะ”