“แพทองธาร”รอด คดีผิดจริยธรรม ปมตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี

31 ต.ค. 2568 | 10:21 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ต.ค. 2568 | 10:25 น.

ป.ป.ช.ตีตกคำร้องกล่าวหา “แพทองธาร ชินวัตร” ผิดจริยธรรมร้ายแรง ปมแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน”เป็น รมต. ชี้ขณะเกิดเหตุยังไม่โปรดเกล้าฯ เป็น นายกฯ จึงไม่เข้าเงื่อนไข

KEY

POINTS

  • ป.ป.ช. มีมติไม่รับพิจารณาคำร้องกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กรณีฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
  • คำร้องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเห็นชอบในการเสนอชื่อแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
  • เหตุผลที่ ป.ป.ช. ตีตกคำร้องคือ การกระทำเกิดขึ้นในช่วงที่ น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จึงยังไม่ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามกฎหมาย

วันที่ 31 ตุลาคม 2568 นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งต่อมา เพื่อให้พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย

คำร้องดังกล่าวระบุว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในขณะนั้น ได้ให้ความเห็นชอบ หรือละเว้นการพิจารณาให้ความเห็นชอบในการคัดเลือก นายพิชิต ชื่นบาน ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (รมต.ประจำสำนักนายกฯ)  ทั้งที่ นายพิชิต เคยต้องคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ และอาจฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า การกระทำที่ถูกกล่าวหานั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ นางสาวแพทองธาร ยังมิได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ จึงไม่ถือเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 28 (1) 

มติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีความเห็น “ไม่รับคำกล่าวหาไว้พิจารณา” เนื่องจากกรณีดังกล่าวไม่เข้าองค์ประกอบของการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. ระบุเพิ่มเติมว่า การพิจารณาดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการตีความอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้กระบวนการตรวจสอบจริยธรรมถูกนำไปใช้ในทางการเมือง โดยเน้นย้ำว่า ความผิดด้านจริยธรรม จะต้องเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งอยู่จริงเท่านั้น

ทั้งนี้ นายพิชิต ชื่นบาน เคยเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้พรรคเพื่อไทย และเคยถูกศาลฎีกาตัดสินในคดีเกี่ยวกับการดำเนินคดีทางการเมืองเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งกรณีการแต่งตั้งเขาเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลชุดปัจจุบัน เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในแวดวงการเมือง และเป็นเหตุให้ กกต. ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. พิจารณาในประเด็นจริยธรรมดังกล่าว