KEY
POINTS
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นักการเมืองจากเชียงใหม่ วัย 50 ปี ผู้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเป็นหนึ่งในผู้นำโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่
เส้นทาง“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์”
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ มีชื่อเล่น “หนิม”
เกิดวันที่ 8 เมษายน 2518 ปัจจุบันอายุ 50 ปี
การศึกษา:
-มัธยมปลาย โรงเรียนสาธิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-ปริญญาโท สาขาการบริหารธุรกิจ (MBA) วิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกา
ครอบครัว:
เป็นบุตรของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย) กับ นางเพ็ชรี (เตชะไพบูลย์) อมรวิวัฒน์
ชีวิตสมรส :
สมรสกับ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน
เส้นทางการเมือง:
ระหว่างปี 2566–2568 ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
ระหว่างปี 2564–2568 ดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ปี 2548–2568 ดำรงตำแหน่ง สส.เชียงใหม่ 5 สมัย (พรรคไทยรักไทย-พรรคพลังประชาชน-พรรคเพื่อไทย)
เครือข่ายทางการเมือง
จุลพันธ์ เป็นบุตรชายของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในพื้นที่การเมืองภาคเหนือ ทำให้ จุลพันธ์ ได้รับการมองว่าเป็นตัวแทน “บ้านใหญ่อมววิวัฒน์” ของเชียงใหม่ ที่มีความสัมพันธ์ทางการเมืองในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค
มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลและเครือข่ายเก่าแก่ในพรรคเพื่อไทย และ สมัยก่อนหน้า
จุลพันธ์ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ/การคลัง มีพื้นฐานการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์และประสบการณ์บริหารในกระทรวงการคลัง ทำให้เขาถูกมองว่าเป็น “ขุนพลเศรษฐกิจ” ภายในพรรค เหมาะกับการสื่อสารนโยบายเศรษฐกิจกับประชาชน และกลุ่มผู้ประกอบการ
ทำไม“จุลพันธ์”เป็นตัวเลือก
-มีโปรไฟล์เป็นนักบริหารเศรษฐกิจ และพร้อมเชื่อมความต้องการของฐานเสียงภูมิภาค สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพรรคในเชิงยุทธศาสตร์ได้ ทั้งช่วงเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง และการรื้อภาพลักษณ์พรรค
- โปรไฟล์ไม่ขัดแย้งกับแนวนโยบายหลัก ภาพนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานได้จริง (policy delivery) ช่วยส่งสารว่าพรรคมีความพร้อมจะบริหารประเทศ หากได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
- มีศักยภาพเป็นสะพานเชื่อมระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ภายในพรรค แต่ต้องบริหารสมดุลให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดการแตกแยก