“จุลพันธ์”ดาวรุ่งรุ่นกลางจ่อผงาดหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่

29 ต.ค. 2568 | 09:16 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ต.ค. 2568 | 09:50 น.

“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” สส.เชียงใหม่ อดีตรมช.คลัง ขึ้นแท่นตัวเต็งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ได้แรงหนุนจากกลุ่ม สส.รุ่นกลาง-คนรุ่นใหม่ ดัน“จาตุรนต์”ติดโผแคนดิเดตนายกฯ

KEY

POINTS

  • นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กลายเป็นตัวเต็งที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่
  • เขาได้รับการสนับสนุนจาก สส. ในฐานะนักการเมืองรุ่นกลางที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และสามารถเชื่อมโยงคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ได้
  • กระแสของนายจุลพันธ์มาแรงแซงหน้านายจาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งถูกเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย(พท.) ว่า กระแสภายในพรรคเริ่มนิ่งลง ก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 31 ตุลาคม 2568 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจาก “แพทองธาร ชินวัตร” ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้เกิดการเปลี่ยนผ่านผู้นำทางการเมืองสู่รุ่นต่อไป

มีรายงานว่า จากเดิมมีกระแสสนับสนุน นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากมีภาพลักษณ์นักการเมืองสายประชาธิปไตย มีจุดยืนชัดเจนในเชิงอุดมการณ์ แต่ในช่วงโค้งสุดท้าย กลับปรากฏเสียงจาก สส.หลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือ-อีสาน เห็นตรงกันว่า พรรคควรได้ผู้นำรุ่นกลางที่สามารถเชื่อมคนรุ่นใหญ่กับคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน และมีความเข้าใจเศรษฐกิจเชิงลึก
 

ชื่อของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จึงถูกเสนอขึ้นมาอย่างโดดเด่น

ประวัติ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

จุลพันธ์ เกิด 8 เมษายน 2518 อายุ 50 ปี 

เป็นบุตรชายของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับนางเพ็ชรี (เตชะไพบูลย์) อมรวิวัฒน์
เป็น สส.เชียงใหม่ หลายสมัย สังกัดพรรคเพื่อไทย 
ถือเป็นคนรุ่นกลางที่เติบโตในสายเศรษฐกิจของพรรค 

จบการศึกษา ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

ปริญญาโท การบริหารธุรกิจ (MBA) วิทยาลัยบอสตัน (Boston University) สหรัฐอเมริกา

 

เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายฟื้นเศรษฐกิจฐานรากและระบบดิจิทัล

ด้วยบุคลิกสุภาพ เข้าใจกลไกเศรษฐกิจมหภาค และมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ สส.หลายรุ่น ทำให้ “จุลพันธ์” ถูกมองว่าเป็น “จุดเชื่อมพลังสามรุ่น” ของพรรคเพื่อไทย ทั้งรุ่นผู้ก่อตั้ง รุ่นกลาง และคนรุ่นใหม่
แกนนำพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งระบุว่า “ถ้าพรรคต้องการผู้นำที่สามารถขึ้นเวทีดีเบตสู้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างมีเหตุผล และพูดเรื่องเศรษฐกิจได้ชัดเจน นายจุลพันธ์ คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้”

ดัน“จาตุรนต์”แคนดิเดตนายกฯ

ขณะเดียวกัน กลุ่ม สส.ฝั่งประชาธิปไตยยังคงผลักดัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง ให้อยู่ในโผ 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เนื่องจากมีภาพลักษณ์นักคิด นักวิเคราะห์ และเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในยุคก่อนหน้าของพรรคไทยรักไทย

“สรวงศ์”นั่งเลขาฯพรรคต่อ 

ในส่วนของตำแหน่งเลขาธิการพรรค มีแนวโน้มสูงว่าจะยังคงเป็น นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ซึ่งได้รับการยอมรับจากสมาชิกพรรคในฐานะผู้ประสานงานหลักระหว่าง สส. กับคณะกรรมการบริหารพรรค สามารถสะท้อนปัญหาในพื้นที่และเชื่อมโยงกับแกนนำพรรคได้อย่างต่อเนื่อง