ไทย-กัมพูชาเห็นชอบแผนถอนอาวุธหนักพ้นพื้นที่ขัดแย้ง หลัง 26 ต.ค.

25 ต.ค. 2568 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ต.ค. 2568 | 10:56 น.

ผลหารือ แม่ทัพภาคที่ 2 ไทย - ผบช.ภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชาเห็นชอบแผนถอน“อาวุธหนัก”ออกจากพื้นที่ขัดแย้ง เดินหน้าสร้างเสถียรภาพชายแดน ตั้งกลไก AOT ลงพื้นที่หลัง 26 ต.ค.นี้

KEY

POINTS

  • ไทยและกัมพูชาเห็นชอบใน "แผนปฏิบัติการ" ร่วมกันเพื่อถอนอาวุธหนักและอาวุธที่มีการยิงทำลายออกจากพื้นที่ขัดแย้งชายแดน
  • จะมีการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เพื่อทำหน้าที่ติดตามและประเมินผลการดำเนินการ โดยฝ่ายไทยพร้อมให้เริ่มปฏิบัติงานได้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2568
  • ข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพถาวรและสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีตามแนวชายแดน

วันที่ 25 ตุลาคม 2568 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงผลการประชุมระหว่าง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย และ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ที่จัดขึ้น ณ จุดผ่านแดนช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 10.30 น. ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ “แผนปฏิบัติการ (Action Plan)” ว่าด้วยการปรับอาวุธหนักและอาวุธที่มีการยิงทำลายออกจากพื้นที่ขัดแย้งชายแดน เพื่อสร้างเสถียรภาพถาวรและสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี

การหารือครั้งนี้เป็นการสานต่อผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยที่ประชุม GBC เห็นชอบกรอบ “Action Plan” ร่วมกันเป็นครั้งแรก นับเป็นพัฒนาการสำคัญของความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศ

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยืนยันความตั้งใจร่วมกันที่จะนำ “แผนปฏิบัติการ” ไปสู่การปฏิบัติจริง พร้อมเห็นพ้องจัดตั้ง คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team: AOT) เพื่อทำหน้าที่ติดตามและประเมินผลการดำเนินการปรับอาวุธในพื้นที่ขัดแย้ง โดยฝ่ายไทยประกาศความพร้อมให้คณะ AOT ปฏิบัติงานได้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ด้านกัมพูชาแจ้งว่า กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม และคาดว่าจะสามารถจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์ได้ภายในวันเดียวกัน จากนั้นจะเชิญฝ่ายไทยเข้าร่วมประชุมเพิ่มเติมภายใน 1-2 วัน เพื่อกำหนดวันเริ่มต้นปฏิบัติการจริงอย่างเป็นทางการ

ทั้งสองฝ่ายยังตกลงให้คณะทำงานร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และคงไว้ซึ่งบรรยากาศแห่งความไว้วางใจระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา

พล.ต.วินธัย ย้ำว่า กองทัพบกยังคงยึดมั่นในแนวทางการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบข้อตกลงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) โดยคำนึงถึงหลักการเคารพอธิปไตยและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพ ความสงบ และความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างยั่งยืน