ปิดฉากประชุม JBC ไทย-กัมพูชา เร่งสำรวจแนวบ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว

23 ต.ค. 2568 | 03:11 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ต.ค. 2568 | 03:18 น.

ไทย–กัมพูชา ปิดประชุม JBC เห็นชอบสร้างหลักเขตแดนใหม่ 15 หลัก พร้อมใช้เทคโนโลยี LiDAR สำรวจแนวเขตบ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว คาดใช้เวลา 6 สัปดาห์ เตรียมประชุมครั้งต่อไปเดือนมกราคม 2569 ที่เมืองเสียมราฐ

KEY

POINTS

  • ที่ประชุม JBC ไทย-กัมพูชา มีมติเร่งรัดการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนบริเวณบ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว (หลักเขตแดนที่ 42-47) โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์
  • ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเพื่อกำหนดแนวพื้นที่เบื้องต้น ก่อนนำเสนอผลต่อรัฐบาลเพื่อกำหนดกลไกการปรับการถือครองที่ดินต่อไป
  • เห็นชอบให้สร้างหลักเขตแดนใหม่ 15 หลักทดแทนของเดิมที่ชำรุด และปรับปรุงข้อตกลง (TOR) เพื่อนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น LiDAR มาใช้ในการทำแผนที่ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2568 ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ จัดขึ้นที่ จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2568 จบลงอย่างเป็นทางการ เมื่อเวลา 00.15 น. โดยฝ่ายไทยที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ ด้านเขตแดน เป็นประธานเจบีซีฯ ฝ่ายไทย และฝ่ายกัมพูชานำโดย นายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา เป็นประธานเจบีซีฯ ฝ่ายกัมพูชา

ทั้งนี้ ในที่ประชุม 2 วันที่ผ่านมา ได้หารือกรณีบ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งถือเป็นเร่งด่วน และใช้ระยะเวลาในการหารือนานที่สุด แต่ยังลงรายละเอียดไม่ได้ จนกว่าจะเสนอรัฐบาล

ทางการกัมพูชา ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล เบื้องต้นได้เห็นตรงกันว่า หลังจากนี้จะเข้าไปสำรวจบ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อวางตำแหน่งทั้งของไทยและกัมพูชา ที่มีการอ้างสิทธิ เมื่อได้แนวพื้นที่ขั้นต้นมาแล้ว รัฐบาลจะแต่งตั้งผู้รับผิดชอบมาดูแล

เบื้องต้นจะเร่งดำเนินการสำรวจเขตแดน คาดว่าใช้ระยะเวลาราว 6 สัปดาห์ เนื่องจากการลงพื้นที่สำรวจต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เพราะบางจุดยังเป็นพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิด

สำหรับข้อตกลงร่วมกันในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) สมัยวิสามัญ จ.จันทบุรี วันที่ 21 - 22 ต.ค.2568 

 

 

ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม (Joint Technical Sub-Commission: JTSC) ดำเนินการสร้างหลักเขตแดนใหม่เพื่อทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย จำนวน 15 หลัก ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้ว ให้กลับคืนสู่ที่ตั้งและตำแหน่งเดิม

ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดทำหลักเขตแดนเพื่อเปลี่ยนหรือทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่จมน้ำ จำนวน 3 หลัก โดยจะกำหนดตำแหน่งที่ตั้งใหม่ร่วมกันในภายหลัง

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดการแก้ไข Terms of Reference 2003 (TOR 2003) เกี่ยวกับการจัดทำแผนที่ภาพถ่าย (Orthophoto Maps) เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Light Detection and Ranging (LiDAR) มาใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย เพื่อให้การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47 บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว

ก. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคำแนะนำทางเทคนิค (Technical Instruction: TI) สำหรับการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวในพื้นที่ภูมิประเทศที่มีความเร่งด่วนในบริเวณหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47

ข. เมื่อทั้งสองฝ่ายดำเนินการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลการสำรวจดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอความเห็นชอบ เพื่อกำหนดกลไกที่เหมาะสมสำหรับการปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายต่อไป

ค. การวางหมุดชั่วคราวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรวจเท่านั้นและจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยและกัมพูชาในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ

ง. ทั้งสองฝ่ายตกลงจะกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่น ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน รับประกันความปลอดภัยให้กับชุดสำรวจจากทุ่นระเบิด ตามข้อ 3 ของ MOU 2543 และเพื่อให้ชุดสำรวจสามารถปฏิบัติงานได้โดยปราศจากการขัดขวางและการยั่วยุที่อาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มเติมในบริเวณดังกล่าว

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดการประชุม JBC ครั้งต่อไปในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569 ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา