สส.ประชาชนจี้รฟท.ฟ้องเพิกถอนที่ดิน“เขากระโดง” 2 แปลงสำคัญก่อน

29 ก.ย. 2568 | 10:30 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2568 | 10:49 น.

จุลพงศ์ อยู่เกษ สส.พรรคประชาชน จี้ “อนุทิน”สั่ง รฟท.ฟ้องเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง 2 แปลงต้นเรื่องก่อน หลัง ป.ป.ช. คยชี้มูลออกโดยมิชอบ ชี้เป็นบทพิสูจน์นิติธรรมรัฐบาล

KEY

POINTS

  • สส.พรรคประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ฟ้องเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง 2 แปลงสำคัญ (เลขที่ 3466 และ 8564) เป็นลำดับแรก
  • การฟ้อง 2 แปลงดังกล่าวก่อน จะช่วยลดแรงต่อต้านจากชาวบ้าน และเป็นแปลงที่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลแล้วว่าออกโฉนดโดยมิชอบทับที่ดินของ รฟท.
  • ข้อเสนอนี้มีขึ้นเพื่อพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาลใหม่ ในการบังคับใช้กฎหมายตามหลักนิติธรรม และสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่งศาลปกครองในคดีภาพรวม

วันที่ 29 กันยายน 2568 ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อรับฟังการแถลงนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ลุกอภิปรายประเด็นร้อน “คดีที่ดินเขากระโดง” จ.บุรีรัมย์ พร้อมเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แสดงความจริงใจด้วยการสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ฟ้องเพิกถอนโฉนด 2 แปลงสำคัญ ได้แก่ แปลงเลขที่ 3466 และ 8564 รวมเนื้อที่กว่า 44 ไร่

นายจุลพงศ์ อภิปรายว่า หนึ่งในสามนโยบายหลักที่รัฐบาลอนุทิน ประกาศไว้ คือ นโยบายยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและการบริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล

“เหมาะเจาะมากที่ท่านเขียนนโยบายนี้ลงในคำแถลง เพราะเมื่อคุณอนุทิน ขึ้นมาเป็นนายกฯ คนใหม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนจับตาดูว่าการบังคับใช้กฎหมายและหลักนิติธรรมในยุคของท่าน จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์”

นายจุลพงศ์ กล่าวว่า เรื่องที่ดินเขากระโดงที่จริงควรจบไปนานแล้ว คำพิพากษาทุกศาล ทั้งศาลยุติธรรม และ ศาลปกครอง ยืนยันว่าที่ดินเขากระโดงเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเหมือนจงใจเตะถ่วงและปล่อยให้เรื่องนี้คาราคาซังอยู่ที่เดิมมานับสิบๆ ปี เดี๋ยวการรถไฟฯ ก็ไปร้องกรมที่ดิน เดี๋ยวกรมที่ดินก็ตั้งคณะกรรมการแล้วสรุปว่า ไม่เพิกถอน ให้การรถไฟฯ ไปฟ้องศาลเพิกถอนโฉนดเอาเอง การรถไฟฯ ก็ไม่ยอมฟ้องเพิกถอน แต่เดินอ้อมไปฟ้องศาลปกครองให้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนดเอง แล้วก็เอาเรื่องนี้มากดดันหรือต่อรองทางการเมือง”

"จนถึงตอนนี้กรมที่ดินยังไม่ยอมใช้อำนาจทางปกครองเพิกถอนโฉนดคืนให้กับการรถไฟฯ แล้วรอศาลปกครองว่าจะสั่งให้กรมที่ดินต้องเพิกถอนทั้ง 995 แปลง หรือ บางแปลงทันที หรือจะให้ทำอย่างไร ซึ่งถ้าศาลปกครองสั่งให้กรมที่ดินตั้งกรรมการเพื่อเพิกถอนโฉนด มันก็จะวนไปเหมือนเดิมอีก" 

นายจุลพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.คมนาคม ที่เพิ่งออกมาประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าจะให้การรถไฟฯ ฟ้องเป็นคดีแพ่งเพื่อเพิกถอนโฉนดรายแปลงบนที่เขากระโดงทั้ง 995 แปลง รวมเนื้อที่ 5,000 กว่าไร่นั้น ตนคิดว่ากำลังทำให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไป สร้างแรงต่อต้านจากชาวบ้านจำนวนมาก 

ดังนั้น ระหว่างกรมที่ดินรอคำสั่งจากศาลปกครอง ตนขอเสนอให้นายกฯ และ รมว.คมนาคม คนใหม่ แทนที่จะสั่งฟ้องเหมาเข่งทีเดียว 900 กว่าแปลง ท่านต้องจัดลำดับความสำคัญ โดยให้การรถไฟฯ ฟ้องเพิกถอนโฉนดบางแปลงที่ชัดเจนแล้วว่า เป็นที่ดินรถไฟแน่นอน 100% ก่อน การรถไฟฯ สามารถฟ้องได้เลยทันทีภายใน 4 เดือนนี้ ชนะคดีแน่นอน แล้วเมื่อมีคำสั่งจากศาลยุติธรรมเป็นรายแปลง อย่างไรกรมที่ดินก็ปฏิเสธไม่ได้

นายจุลพงศ์ ยกตัวอย่างที่ดิน 2 แปลงที่เป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์เขากระโดง คือ ที่ดินแปลง 3466 และ ที่ดินแปลง 8564 รวมกัน 44 ไร่ ถ้าจะเอาที่ดินเขากระโดงคืนให้การรถไฟฯ ต้องเริ่มจากที่ดิน 2 แปลงนี้ 

ที่จริงเรื่องนี้ควรจะจบตั้งแต่ปี 2554 เพราะในปีนั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้ว่าการออกโฉนดที่ดินแปลง 3466 และ 8564 นั้นมิชอบด้วยกฏหมาย เป็นการออกโฉนดทับที่ดินของการรถไฟฯ แต่ปรากฏว่า พอ ป.ป.ช. บอกดังนั้น กรมที่ดินก็ดื้อไม่ยอมเพิกถอน กลับดึงเรื่องไปถามอัยการสูงสุดว่าตัวเองต้องทำอย่างไร อัยการสูงสุดเลยตอบกลับกรมที่ดินว่าให้ไปแจ้งการรถไฟฯ ในฐานะผู้เสียหาย ให้การรถไฟฯ ไปฟ้องศาลเอาที่ดิน 2 แปลงนั้นคืน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร การรถไฟฯ ไม่ยอมไปฟ้องเสียที

"กรมที่ดินไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง การรถไฟฯ ไม่ยอมฟ้องเอาที่ดินคืนมา ทุกรัฐบาลตั้งแต่สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, เศรษฐา ทวีสิน, แพทองธาร ชินวัตร ต้องรอจนกระทั่งพรรคภูมิใจไทยพ้นจากพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนหน้านี้ กระทรวงมหาดไทยถึงทำท่าทางเอาจริงเอาจัง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวดิบดีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ว่าจะเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงทั้งหมด" 

นายจุลพงศ์ กล่าวว่า เหมือนเรื่องจะจบลงด้วยดี แต่สุดท้ายไม่มี เพราะเรื่องแดงออกมาว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนที่ดินเขากระโดงแม้แต่คำเดียว ส่วน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม คนก่อนหน้านี้ ก็เกรงอกเกรงใจไม่สั่งให้การรถไฟฯ ฟ้องศาลเพิกถอนโฉนดที่ดินเองเสียที 

“วนกลับไปศาลปกครองอีก ล่าสุดยังไม่ทันโปรดเกล้าฯ นายกฯ คนใหม่เสียด้วยซ้ำ ข้าราชการมหาดไทยก็ดาหน้ากันออกมาปกป้องที่ดินเขากระโดง ทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงที่เคยเป็นอธิบดีกรมที่ดิน ควงคู่กับ อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ รีบตั้งโต๊ะแถลงเลยว่าไม่เพิกถอนแล้ว จะรอศาลปกครองตัดสินคดีที่การรถไฟฯ ไปฟ้องมหาดไทย”

ดังนั้น ระหว่างรอศาลปกครอง ตนขอย้ำว่า สิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่สามารถทำได้ทันทีใน 4 เดือนนี้ หลังจากแถลงนโยบายครั้งนี้เสร็จ รมว.คมนาคม สามารถสั่งการให้การรถไฟฯ เริ่มฟ้องเพิกถอนที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้ได้ทันที คือ แปลง 3466 และ แปลง 8564 โดยเหตุผลที่ตนเสนอให้การรถไฟฯ ไปฟ้องร้องเพิกถอนที่ดินกับศาลยุติธรรมได้เลย เพราะเคยมีกรณีที่การรถไฟฯ ชนะคดีในศาลฎีกามาแล้ว ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561

สส.พรรคประชาชน ผู้นี้ กล่าวอีกว่า หากนายกฯ และรัฐบาลชุดนี้มีความจริงใจที่จะทำให้ปัญหาที่ดินเขากระโดงได้ข้อยุติ และไม่เป็นที่กังขา ไม่ต้องไล่ฟ้องทั้ง 995 แปลงตามที่ รมว.คมนาคม ออกมาให้สัมภาษณ์ขึงขังเมื่อสัปดาห์ก่อน 
“ผมขอเสนอให้นายกฯ อนุทิน หรือ รัฐมนตรีพิพัฒน์ ประกาศ ณ ตรงนี้เลยว่าจะให้การรถไฟฯ ดำเนินการฟ้องเพิกถอนโฉนดที่ดิน 2 แปลงที่ ป.ป.ช. ชี้แล้วว่าออกโฉนดโดยมิชอบ ถ้าศาลตัดสินจนถึงที่สุดว่าที่ดินเป็นของการรถไฟฯ รัฐก็ได้ที่ดินคืนมา แต่ถ้าศาลตัดสินเป็นอย่างอื่น เรื่องจะได้จบ”

พร้อมย้ำว่า "เรื่องนี้ไม่ยากเกินความสามารถ เพราะการรถไฟฯ มีพยานหลักฐานและแนวทางการต่อสู้คดี ที่เคยทำให้ชนะคดีในศาลฎีกามาแล้ว ที่สำคัญเรื่องที่ดินเขากระโดง จะเป็นข้อพิสูจน์อย่างดีเลยว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล จะบริหารบ้านเมืองภายใต้หลักนิติธรรม หรือ ใช้ระบบพวกพ้องกันแน่" นายจุลพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย