“ณัฐพงษ์”ซักฟอกนโยบาย จี้ 4 เดือนแก้ รธน. ห้ามแทรกคดีอื้อฉาว

29 ก.ย. 2568 | 04:43 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2568 | 04:56 น.

“ณัฐพงษ์”อภิปรายนโยบายรัฐบาล ย้ำ 4 เดือนที่เหลือเป็นหมุดหมาย ต้องเปิดประตูสู่รัฐธรรมนูญใหม่ ยึดโยงประชาชน ลั่นฝ่ายค้านจะไม่ปล่อยให้รัฐบาลแทรกแซงคดีอื้อฉาว

KEY

POINTS

  • นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เรียกร้องให้รัฐบาลใช้เวลา 4 เดือนก่อนยุบสภา เร่งผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยึดโยงกับประชาชน
  • ประกาศจะทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลอย่างเข้มข้น และคัดค้านการใช้อำนาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หรือ การดำเนินคดีอื้อฉาวต่างๆ
  • ชี้ให้เห็นว่าปัญหาโครงสร้างทางการเมือง วงจรรัฐประหาร และการทุจริต เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านในช่วง 19 ปีที่ผ่านมา

วันที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับฟังการแถลงนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลง ขณะที่บรรยากาศการอภิปรายทั่วไปเริ่มต้นอย่างเข้มข้น เมื่อ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรก

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่งของรัฐบาลในช่วงเวลาเพียง 4 เดือนก่อนการยุบสภา ถือเป็น “หมุดหมายแรก” ที่ฝ่ายค้าน ปชน. ต้องใช้นับถอยหลังเพื่อผลักดันให้เกิด รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยึดโยงประชาชนมากที่สุด พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีควรย้อนทบทวนเส้นทางชีวิตทางการเมือง ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าคูหาเลือกตั้ง และเปรียบเทียบกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ-สังคมของประเทศ

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงปัญหาเชิงโครงสร้างว่า ประเทศไทยไม่เคยมีคนรุ่นใดที่เติบโตมาโดยปราศจากรัฐประหาร ทุกยุคสมัยล้วนผ่านการยึดอำนาจซ้ำซาก นำไปสู่วิกฤติศรัทธาในระบอบการเมือง และเป็นสาเหตุที่ทำให้ไทยไม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจด้วยขาของตนเองได้ ต้องพึ่งพาอานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกภายนอก 

“รถยนต์เศรษฐกิจโลกวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว แต่รถยนต์เศรษฐกิจไทยกลับติดหล่ม เพราะเครื่องยนต์การเมืองที่บิดเบี้ยว” นายณัฐพงษ์ กล่าว พร้อมชี้ว่าปัญหาการทุจริตยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ทั้งที่ประเทศไทยมีองค์กรอิสระจำนวนมาก แต่กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง มากกว่าปกป้องภาษีประชาชน

หัวหน้าพรรคประชาชน ยังแสดงตัวเลขเศรษฐกิจเปรียบเทียบย้อนหลัง 19 ปี ตั้งแต่การรัฐประหารปี 2549 พบว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าค่าเฉลี่ยโลก และล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ซึ่งสะท้อนถึงโครงสร้างเศรษฐกิจที่อ่อนแอและไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่

ทั้งนี้ 4 เดือนต่อจากนี้ พรรคฝ่ายค้าน พรรคประชาชนจะเดินหน้า 4 ภารกิจหลัก ได้แก่

1.ผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ให้เสร็จสิ้นก่อนการยุบสภา โดยที่มาของผู้ยกร่างต้องยึดโยงประชาชนมากที่สุด

2.เดินหน้ากฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน เช่น พ.ร.บ.อากาศสะอาด

3.ติดตามแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต ความมั่นคง และอาชญากรรมข้ามชาติ

4.ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอย่างเข้มงวด ไม่ยอมให้รัฐบาลแทรกแซงการดำเนินคดี หรือใช้อำนาจแต่งตั้งรัฐมนตรีโดยมิชอบ 

“สิ่งที่ฝ่ายค้านและพรรคประชาชนต้องการเห็นจากนายกฯ ไม่ใช่เพียงการเคารพข้อตกลงที่ทำร่วมกัน แต่คือ การเคารพกระบวนการยุติธรรม เคารพประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด” 

นายณัฐพงษ์ ยังฝากความหวังว่า ลูกหลานคนไทยรุ่นใหม่ควรได้เติบโตในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ ปราศจากวงจรรัฐประหาร