KEY
POINTS
วันที่ 29 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเปิดประเด็นถึงความไม่ชัดเจนในหลายด้าน โดยเฉพาะการทำประชามติเพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ฉบับใหม่
นายจุรินทร์ ชี้ว่า แม้รัฐบาลชุดปัจจุบันมีอายุเพียง 4 เดือน ก่อนยุบสภา แต่เมื่อเข้าสู่สถานะรัฐบาลรักษาการก็ยังคงมีอำนาจเต็มอีกกว่า 4 เดือน รวมแล้ว 8 เดือน ซึ่งถือว่านานพอที่จะคลายทุกข์ให้เกษตรกรได้
แต่กลับไม่พบรายละเอียดชัดเจนในคำแถลงนโยบาย โดยเฉพาะ “สัญญาเลือกตั้ง” ที่เคยให้ไว้ เช่น ข้าวขาวตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 18,000 บาท ที่กลับหายไป เหลือเพียงถ้อยคำกว้าง ๆ ว่า “จะให้ราคาที่เหมาะสม”
นายจุรินทร์ ย้ำว่า “โจทย์ใหญ่” ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข คือ ราคาข้าว มันสำปะหลัง ปาล์ม ยาง และ ผลไม้ ซึ่งกำลังเผชิญภาวะเงินบาทแข็งกระทบผู้ส่งออก ขณะคู่แข่งต่างประเทศรุกคืบในตลาดโลก พร้อมเสนอให้รัฐบาลนำนโยบายประกันรายได้พืชผลการเกษตร มาใช้เป็นเครื่องมือหลัก เพื่อช่วยพยุงรายได้เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านนโยบาย “คนละครึ่ง” นายจุรินทร์ ประกาศสนับสนุนเต็มที่ โดยชื่นชมว่า เป็นมาตรการที่สอดรับกับภาวะประชาชนกำลังซื้อถดถอย อีกทั้งการแบ่งเป็น 2 เฟส (ต.ค.–พ.ย. และ ธ.ค.–ม.ค. 2569) ยังสอดคล้องทางการเมือง เนื่องจากช่วงต้นปี 2569 จะมีการยุบสภาเลือกตั้ง “ถือเป็นเศรษฐกิจครึ่งหนึ่งและการเมืองอีกครึ่งหนึ่ง”
นอกจากนั้น นายจุรินทร์ ยังสะท้อนความกังวลต่อการบังคับใช้นโยบายด้านกฎหมายและความยุติธรรม โดยย้ำว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ทั้งช่วยหาเสียง หรือ กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม จะเข้าข่ายทำผิดวินัยร้ายแรงและกฎหมายอาญา
ก่อนปิดท้ายการอภิปราย นายจุรินทร์ ฝาก “คาถา 5 ข้อ” ถึงรัฐบาลอนุทิน ได้แก่
1.อย่าโกง เพราะโกงเมื่อใด อันตรายจะมาถึง
2.อย่าเล่นพรรคเล่นพวก ในการแต่งตั้งโยกย้าย เพราะทำให้คนดีหมดกำลังใจและประเทศเสียอนาคต
3.อย่าเลือกปฏิบัติ ในการพัฒนาประเทศ ต้องดูแลทุกพื้นที่ไม่ว่าประชาชนเลือกหรือไม่เลือก
4.อย่าลุแก่อำนาจ เพราะอดีตพิสูจน์แล้วว่า รัฐบาลที่กุมทั้งอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และ องค์กรอิสระ หากเผลอตัวจะจบไม่สวย
5.อย่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพราะนอกจากทำลายนิติรัฐ ยังจะกลายเป็น “ของแสลง” ที่เล่นงานรัฐบาลเอง
“หากรัฐบาลทำตามได้ จะกลับมาแน่นอน แต่จะกลับมาเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ขึ้นอยู่กับการกระทำและการตัดสินของประชาชน” นายจุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย