KEY
POINTS
ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึง ปัญหาสําคัญระดับชาติ 3 ประการ ได้แก่ ปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ปัญหาขยะล้นเมืองและการจัดการที่ไม่ถูกต้อง และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โดยระบุว่า ไฟป่าเป็นหนึ่งในต้นตอสําคัญของการเกิด PM2.5 จึงขอให้นายกรัฐมนตรีคืนภารกิจการดับไฟป่าให้แก่กรมป่าไม้ เนื่องจากภารกิจดังกล่าวได้ถูกโอนไปให้ท้องถิ่น ทำให้กรมป่าไม้ขาดศักยภาพในการหาบุคลากร งบประมาณ และอุปกรณ์ ทั้งที่ไฟป่ามักเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ และอุทยาน
ตอนที่ผมทํางานอยู่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จําได้ว่าภารกิจในการดับไฟป่าของกรมป่าไม้นั้นได้ถูกโอนถ่ายไปยังท้องถิ่น โดยมติของคณะกรรมการกระจายอํานาจ ตั้งแต่นั้นมากรมป่าไม้ก็ไม่มีสิทธิ์ในการที่จะไปดับไฟป่าอีกเลย แต่ในความเป็นจริงเวลาเกิดไฟไหม้ ไฟป่า มันเกิดขึ้นในพื้นที่ของป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ หรือแม้แต่ในเขตอุทยาน ดังนั้นขอให้คืนภารกิจการดับไฟป่าให้กับ กรมป่าไม้ เมื่อทําแบบนี้ แล้วกรมป่าไม้ก็จะมีศักยภาพใน การหากําลังคน มีงบประมาณ มีอุปกรณ์ ในการดับไฟป่า ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นตอสําคัญของการเกิดPM2.5 ในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังระบุถึงการจัดการขยะที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาขยะขนาดใหญ่ เช่น ตู้เย็น ที่นอน เครื่องซักผ้า ถูกทิ้งลงในแม่น้ำลําคลองและกีดขวางระบบระบายน้ำ จึงขอให้เร่งผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ เช่น พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Extended Producer Responsibility - EPR) เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการจัดการขยะ
นายวราวุธ ระบุว่า แม้ประเทศไทยจะมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตแล้ว อย่าง FTIX และมีการผลักดันเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2593 แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง แสดงให้เห็นว่าการดําเนินการที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดต่อประชาชนไทยและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
เช่น พายุทวีความรุนแรงขึ้น ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น อุณหภูมิสูงขึ้น การเปลี่ยนผ่านจากลานีญาไปเอลนีโญที่จะนำมาซึ่งความร้อนและแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ที่มีข้อจํากัดในการปรับตัว จะได้รับผลกระทบก่อนและรุนแรงกว่ากลุ่มอื่น
ขอให้ท่านผลักดันอย่างที่ได้พูดไว้ในนโยบาย ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเอื้อให้มีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตกันมากขึ้นเป็นหนึ่งในเครื่องมือสําคัญ ในการดูแลสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกับการกระตุ้นการลงทุน ซึ่งวันนี้เรามีกระดานซื้อขายคาร์บอนเครดิตกันแล้ว แต่ว่าการที่ท่านนายกฯ ได้พูดถึงการผลักดันไทยให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ แล้วก็การจัดตั้งการซื้อขายคาร์บอนมันไม่พอแล้ว
ดังนั้น จึงขอเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เร่งรัดการจัดทำและใช้ประโยชน์จากแผนที่ความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับการกระจายตัวของประชากรในกลุ่มต่าง ๆ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเตรียมความพร้อมในการป้องกัน จัดหาสถานที่รองรับ และมีการเยียวยาที่เหมาะสม ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปรับตัวอยู่กับธรรมชาติ เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำ โดยเฉพาะในภาคเหนือ
เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลบ่าท่วมภาคกลาง ขุดลอกแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บและระบายน้ำให้กลับมามีศักยภาพสูงสุด ทบทวนการสร้างถนนและการปลูกสร้างตามผังเมืองที่อาจขวางทางน้ำ ควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ
เราต้องเร่งปรับตัว ขอถามว่า เวลาน้ำท่วม ควรเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย น้ำฝนมาเยอะ ถ้าเราสามารถกักเก็บน้ำทางภาคเหนือได้มากเท่าไหร่ก็จะลดปริมาณน้ำที่จะไหลบ่ามาท่วมพื้นที่ภาคกลางมากเท่านั้น รวมไปถึงการขุดลอกลําน้ำต่างๆ