ภท.ดูดบ้านใหญ่“กาญจนะ-โล่สถาพรพิพิธ-บุญญามณี” เป้า 30 สส.ใต้

17 ก.ย. 2568 | 09:50 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ย. 2568 | 09:50 น.

“ภูมิใจไทย” เปิดเกมดูดบ้านใหญ่ภาคใต้ ดึง “กาญจนะ-โล่สถาพรพิพิธ-นิพนธ์ บุญญามณี” เสริมทัพ ตั้งเป้ากวาด สส.ใต้ไม่ต่ำกว่า 30 ที่นั่ง ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าเดือด

KEY

POINTS

  • พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กำลังรุกขยายฐานเสียงในภาคใต้ โดยดึงตัวกลุ่มการเมือง "บ้านใหญ่" หลายตระกูลเข้าร่วมพรรค
  • ตระกูลการเมืองที่เป็นเป้าหมายหลัก ได้แก่ บ้าน "กาญจนะ" จากสุราษฎร์ธานี, บ้าน "โล่สถาพรพิพิธ" จากตรัง และกลุ่มของ "นิพนธ์ บุญญามณี" จากสงขลา
  • ภท.ตั้งเป้าหมายชัดเจนในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า จะต้องได้ สส.ในพื้นที่ภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 30 ที่นั่ง

วันที่ 17 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เร่งขยายฐานในภาคใต้เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า โดยหลังจากเพิ่งเปิดตัว “กลุ่มชุมพล จุลใส” อดีต สส.ชุมพร เข้ามาสังกัดแล้ว 

ล่าสุดยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญคือ การทาบทามและเปิดตัว “บ้านใหญ่กาญจนะ” นำโดย นายชุมพล กาญจนะ อดีต สส.หลายสมัย และ นางโสภา กาญจนะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้ามาเสริมทีม 

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนดึงเครือข่ายการเมืองในจังหวัดตรัง โดยเฉพาะบ้าน “โล่สถาพรพิพิธ” ที่มี นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ เป็นแกนนำ ดูแล สส.ตรัง 2 คน ได้แก่ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ นายกาญจน์ ตั้งปอง สส.ตรัง เขต 4 พรรค ปชป. รวมถึงมีสัญญาณว่า นายทวี สุระบาล สส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ ก็อาจย้ายเข้าสังกัดภูมิใจไทยด้วย 

นอกจากนี้ ยังจับตากลุ่มของ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีฐานเสียงสำคัญในจังหวัดสงขลา โดยบุตรชายคือ นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรค ปชป. และเครือข่ายใกล้ชิดอย่าง นายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา ก็มีแนวโน้มย้ายเข้ามาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน

การเดินเกมดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลัง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค ประกาศวางมือทางการเมือง ทำให้กลุ่มการเมืองท้องถิ่นหลายสายเริ่มขยับหาพรรคใหม่ ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ประกาศชัดว่า จะส่งผู้สมัครครบทุกเขตในพื้นที่ภาคใต้ และตั้งเป้าเก็บเก้าอี้ สส. ไม่ต่ำกว่า 30 ที่นั่ง

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงการรุกคืบของ พรรคภูมิใจไทย ที่หวังปักธงภาคใต้ให้เป็นฐานเสียงใหญ่ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างพรรคใหญ่หลายพรรคที่เล็งชิงพื้นที่เดียวกัน