KEY
POINTS
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคำร้องสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่กรณีเกี่ยวข้องกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี (ในขณะดำรงตำแหน่ง) และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
คดีอนุทิน
คำร้องที่ ต.86/2568 มีนายนิยม นพรัตน์ เป็นผู้ร้อง โดยอ้างอิงรายงานข่าวใน MGR Online เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 กล่าวหาว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ขณะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ใช้อำนาจหน้าที่ขอใช้ถนนสาธารณะเป็นทางขึ้นลงของอากาศยาน เพื่อกิจกรรมทางธุรกิจของเอกชน อันอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 และมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมขอให้วินิจฉัยให้สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ผู้ร้องไม่ได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 46 วรรคหนึ่ง ส่งผลให้ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา
คดีภูมิธรรม-ทวี
อีกหนึ่งคดีที่พิจารณาในวันเดียวกัน คือ คดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้อง (เรื่องที่ 8/2568) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าจะสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 ประกอบมาตรา 160
โดย สว.ผู้ร้องระบุว่า ผู้ถูกร้องทั้งสองใช้อำนาจมีมติให้คดีอาญาบางประเภทเป็นคดีพิเศษตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 21 (2) เพื่อครอบงำหรือแทรกแซงอำนาจการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ถือเป็นการกลั่นแกล้ง ข่มขู่ กดดัน สว. ขัดต่อหลักนิติธรรมและมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้รอความเห็นและเอกสารประกอบจากเลขาธิการ กกต. ซึ่งขอขยายระยะเวลาในการจัดทำความเห็นและรวบรวมหลักฐาน ก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัยต่อไป