เดดล็อกแก้รัฐธรรมนูญ MOA พรรคส้ม-น้ำเงิน“ส่อแท้ง”

12 ก.ย. 2568 | 06:19 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2568 | 06:30 น.

เดดล็อกแก้รัฐธรรมนูญ MOA พรรคส้ม-น้ำเงิน“ส่อแท้ง” : ณัฐพงษ์" ลั่น “หากรัฐบาลอนุทินไม่เดินตามแนวทางที่ตกลง พรรคประชาชนพร้อมใช้เสียงฝ่ายค้าน 143 เสียง ล้มรัฐบาลทันที”

KEY

POINTS

  • คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ห้ามประชาชนเลือกตั้ง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยตรง ขัดแย้งกับข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคประชาชน และ พรรคภูมิใจไทย ทำให้ข้อตกลงดังกล่าวส่อล่ม
  • พรรคประชาชนยืนยันให้รัฐบาลเดินหน้าตาม MOA โดยเสนอทางออกอื่น และขู่ว่าจะใช้เสียง สส. 143 เสียงล้มรัฐบาลหากไม่ทำตามสัญญา
  • พรรคการเมืองอื่นตั้งข้อสงสัยต่อความจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ และเตรียมยื่นร่างแก้ไขในแนวทางของตนเอง เช่น การให้รัฐสภาตั้ง สสร. เพื่อเป็นทางออก

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 10 กันยายน 2568 ได้จุดชนวนทางการเมืองครั้งใหม่ เมื่อศาลมีมติ 5 ต่อ 2 วินิจฉัยว่า รัฐสภามีอำนาจริเริ่มการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ต้องผ่านประชามติถึง 3 ครั้ง และที่สำคัญ ศาล “ปิดทาง” ไม่ให้ประชาชน “เลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยตรง”

ผลสะเทือนทันทีคือ การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญตาม บันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่าง พรรคประชาชน กับ พรรคภูมิใจไทย เสี่ยงสะดุด เพราะในข้อตกลงระบุไว้ชัดว่า จะผลักดัน “รัฐธรรมนูญใหม่โดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง”

ศาลปิดทางเลือกตรง สสร. 

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกโรงตั้งคำถามว่า ข้อตกลง MOA จะเดินต่อได้อย่างไร เมื่อศาลชี้ชัดว่า ประชาชนไม่มีสิทธิเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง 

“นี่สะท้อนความไม่รอบคอบของพรรคประชาชนเองหรือไม่ ที่ไปลงนามใน MOA ทั้งที่รู้ว่าคำวินิจฉัยศาลอาจปิดประตูตั้งแต่ต้น”

เสียงวิจารณ์แรงจาก นายสมคิด เชื้อคง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ยิ่งทำให้ MOA ร้อนแรงขึ้น เมื่อเขาเปรียบเทียบว่า ข้อตกลงระหว่างภูมิใจไทย-ประชาชน “ไม่ต่างจากมวยล้มต้มคนดู” เพราะภูมิใจไทยไม่เคยจริงใจจะแก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว 

“การผลักดันให้ทำประชามติ 3 รอบ ทั้งเปลืองงบไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และใช้เวลานานกว่าที่อ้างว่าจะทำภายใน 4 เดือน จึงเป็นเพียง การหลอกคนไทยทั้งประเทศ” นายสมคิด ระบุ

                               เดดล็อกแก้รัฐธรรมนูญ MOA พรรคส้ม-น้ำเงิน“ส่อแท้ง”

ปชน.กดภท.เร่งแก้หมวด 15

ด้าน พรรคประชาชน(ปชน.) นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ย้ำจุดยืนว่า MOA คือ คำสัญญาที่ต้องรักษาไว้ โดยเสนอให้เร่งแก้รัฐธรรมนูญหมวด 15 ภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อเปิดทางทำประชามติรอบแรกพร้อมการเลือกตั้งใหญ่หลังยุบสภาภายใน 4 เดือน

“ปัจจุบัน สส.จากพรรคประชาชน และ เพื่อไทย ได้ยื่นร่างแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของภูมิใจไทย(ภท.) ในฐานะแกนนำรัฐบาล ต้องเร่งดำเนินการตามข้อตกลง”

ณัฐพงษ์ยังชี้ว่า แม้ศาลตีความห้ามเลือก สสร.โดยตรง แต่ยังเปิดช่องทางเลือกแบบ “อ้อม” เช่น ให้ร่างจากสภาฯ ก่อนส่งต่อประชามติ ดังนั้น การเมืองยังไม่ถึงทางตันเสียทีเดียว หากรัฐบาลจริงใจตามที่ลงนามไว้

หัวหน้าพรรคประชาชน ยังส่งสัญญาณแข็งกร้าวว่า หาก “รัฐบาลอนุทิน” ไม่เดินตามแนวทางที่ตกลง พรรคประชาชนพร้อมใช้เสียงฝ่ายค้าน 143 เสียง ล้มรัฐบาลทันที 

“สิ่งนี้ไม่ใช่การต่อรองทางการเมือง แต่คือ การรักษาคำสัญญาต่อประชาชน เราไม่ได้มีสายตรง หรือ ดีลลับใด ๆ กับพรรคแกนนำรัฐบาล สิ่งเดียวที่ยึดถือคือเจตนารมณ์ MOA” ณัฐพงษ์ ระบุ

พท.ชงแก้ ม.256 เปิดทาง สสร.

ขณะที่พรรคเพื่อไทย(พท.) โดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ระบุว่า ศาลวินิจฉัยครั้งนี้สับสนและเป็นอุปสรรคต่อหลักอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญของประชาชน แต่ “เพื่อไทย” จะไม่ถอย โดยเตรียมยื่นร่างแก้ไขหมวด 15 ภายในสัปดาห์หน้า ให้อำนาจรัฐสภาตั้ง สสร.เอง และเสนอแก้มาตรา 256 เพื่อลดขั้นตอนประชามติจาก 3 ครั้ง ให้เหลือเพียงครั้งเดียว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เน้นว่า ต้องทำให้กระบวนการเป็น “ฉบับประชาชนจริง ๆ” ผ่านการร่วมมือของทุกพรรคการเมือง ไม่ใช่เกมแบ่งฝ่ายการเมือง

“นิกร”ชี้ร่างแก้รธน.เดิมตกไป

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ชี้ชัดว่า ร่างแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ที่อยู่ในสภาขณะนี้ ต้องตกไป เพราะขัดคำวินิจฉัยศาล และไม่สามารถนำประชาชนมาเลือก สสร.โดยตรงได้ อีกทั้งยังเตือนว่า หากฝืนตั้งคำถามประชามติผิดทิศทาง อาจเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง

นายนิกร เสนอว่า แนวทางเลือกที่ทำได้ คือ การตั้ง สสร.แบบ “เลือกตั้งอ้อม” คล้ายกระบวนการรัฐธรรมนูญปี 2540 พร้อมย้ำว่า ควรยกเว้นหมวด 1 และหมวด 2 เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะทางการเมือง

เดดล็อกใครได้เปรียบ?

เมื่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ MOA พรรคประชาชน-ภูมิใจไทย “สั่นคลอนตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม” การเมืองจึงเข้าสู่ภาวะเดดล็อกชัดเจน ฝ่ายหนึ่งกดดันเร่งแก้หมวด 15 และทำประชามติควบเลือกตั้ง ขณะที่อีกฝ่ายตั้งคำถามถึงความจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ

บททดสอบนี้ไม่เพียงวัดใจ “รัฐบาลอนุทิน” แต่ยังสะท้อนถึงทิศทางความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล (พรรคประชาชนสนับสนุนอนุทิน เป็นนายกฯ แต่ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน” และจะเป็นตัวชี้วัดว่า MOA ที่ลงนามไว้ จะเป็น “พันธสัญญา” หรือ เป็นเพียง “มวยล้มต้มคนดู” ตามที่มีการวิจารณ์กล่าวหา...