KEY
POINTS
12 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงความยินดีแก่นักสาธารณสุขดีเด่น ผู้ได้รับพระราชทานรางวัล "ชัยนาทนเรนทร ปี 2567" และร่วมพิธีปิดการประชุมวิชาการสาธารณสุข 2568 โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวง แพทย์ พยาบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้การต้อนรับ และเข้าร่วม ก่อนเริ่มงาน นพ.โอภาส ได้นำทีมบริหารกระทรวงสาธารณสุข มอบพวงมาลัยช่อใหญ่อวยพรวันเกิดล่วงหน้านายอนุทินในวาระที่อายุครบ 59 ปี ในวันที่ 13 กันยายนนี้
นายอนุทิน นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "สาธารณสุขไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน" ซึ่งนับเป็นปาฐกถาครั้งแรกหลังจากที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ โดยตอนหนึ่งระบุว่า วันนี้มาพบกับท่านในบรรยากาศเช่นนี้ ทำให้รู้สึกคิดถึงเหมือนตัวเองได้กลับคืนสู่เหย้าอีกครั้ง เพราะตั้งแต่พ้นตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่า คิดถึงกระทรวงสาธารณสุขอยู่ตลอด ออกไปจากกระทรวงสาธารณสุข 2 ปี ไปมีบทบาทต่าง ๆ ที่กระทรวงอื่น พักร้อนไป 2 เดือน และกลับมารับใช้ชาติบ้านเมืองอีกครั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สิ่งที่จดจำและประทับใจมาก คือ ตอนที่ทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุขเพราะใช้เวลาทำงานที่นี่ตั้งแต่เป็น รมช.สาธารณสุข เมื่อ 22 ปีที่แล้ว ถือว่า ใช้เวลาในกระทรวงสาธารณสุขเกือบ 7 ปี ที่ทำงานกับพวกท่าน พบกับสิ่งที่ท้าทายสิ่งที่เป็นปัญหา สิ่งดีงาม และสิ่งที่ต้องแก้ไข พบมาในทุกมิติ แต่สิ่งที่มั่นใจ คือ ความร่วมมือที่ได้จากข้าราชการทุกระดับในกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ภารกิจต่าง ๆ บรรลุผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ได้รับการยอมรับประสบความสำเร็จ และสิ่งที่พวกเราต้องการมากที่สุดคือสุขภาพที่ดีของพี่น้องประชาชน
เชื่อว่าวันนี้กระทรวงสาธารณสุขดำรงสถานะเป็นผู้นำทางด้านการสาธารณสุขเป็นลำดับต้น ๆ ของโลกท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกกระทรวงสาธารณสุขคงต้องปรับตัวซึ่งตนมั่นใจว่าถ้าทำงานกันด้วยความรัก ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นจะไม่มีปัญหาใด ๆ
นายกฯ กล่าวว่า ตนได้รับเกียรติอย่างสูงที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอชื่อให้ได้รับรางวัล "ชัยนาทนเรนทร" ด้านการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทนักบริหาร ทำให้ตนรู้สึกภาคภูมิใจ และคิดถึงกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้น ตนตระหนักดีว่า รางวัลนี้ไม่ได้เป็นเกียรติยศส่วนตัวแต่เป็นผลงานแห่งความสำเร็จของทุกคนที่ได้ร่วมงานด้วยกันมาสมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข
สิ่งที่ตนภาคภูมิใจ คือ พวกเราทุกคนในห้องนี้ และผู้ที่เกษียณไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ช่วยกันนำพาระบบการสาธารณสุขของไทยให้ไปยืนแถวหน้า สร้างความมั่นคง ความเชื่อมั่น ทำให้เราไปยืนอยู่ในเวทีนานาชาติได้ในฐานะผู้นำที่ได้รับการยอมรับนับถือจากวงการสาธารณสุขทั่วโลก และหลังจากผ่านวิกฤตต่างๆ ระบบสาธารณสุขไทยยังได้รับการขนานนามว่า เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เวลาตนไปไหนมาไหนก็คุยนักคุยหนา ว่าองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบการสาธารณสุขของประเทศไทยอยู่แถวหน้าได้ นอกจากแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ของระบบสาธารณสุขของประเทศไทยยังมีพี่น้องอสม. ที่เป็นกลไกสำคัญอยู่เคียงข้างระบบสุขภาพของไทยมาตลอด โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่เป็นที่ยอมรับ
วันนี้เราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างสมบูรณ์แบบ ยาดี หมอดี พยาบาลดี เภสัชกรดี อสม.ดี คนก็ไม่อยากตายอยากอยู่ไปเรื่อยๆ แต่ทำอย่างไรจะอยู่ได้ด้วยตัวเอง ลูกหลานทำงานได้ปกติช่วยเสริมสร้างรายได้รัฐเพื่อเอามาดูแลพี่น้องประชาชน เราต้องปรับรูปแบบการรักษาพยาบาลมากขึ้นเพราะโรงพยาบาลมีเพิ่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ จึงเริ่มมีเรื่องการรักษาที่บ้านโดยใช้ระบบต่างๆในการดูแล
ช่วงที่ตนอยู่กระทรวงมหาดไทยได้ไปตามชุมชนหมู่บ้านต่าง ๆ เห็นว่า ระบบการสาธารณสุขตามไปดูแลถึงบ้านจริงๆ แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่คือคุณภาพชีวิตยังไม่ดีพอ ยังอยู่แบบติดเตียง เราไม่ต้องการให้เห็นสภาพแบบนั้น จึงคิดว่าทำอย่างไรที่จะทำให้คนที่ไม่ควรจะถึงวัยที่เป็นภาระของคนอื่น ให้เขาอยู่ดูแลตัวเองให้ได้มากที่สุด นี่เป็นโจทย์สำคัญที่เมื่อตนเข้ามาได้รับตำแหน่ง และแถลงนโยบาย คงมอบให้เป็นภารกิจของรมว.สาธารณสุขท่านใหม่นำไปปฏิบัติงานร่วมกับพวกท่าน
นายกฯ กล่าวว่า ช่วงที่อยู่กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้การสนับสนุนเรื่องเจ้าหน้าที่ในระบบสาธารณสุขให้มีมากที่สุดเพื่อเพียงพอต่อผู้ป่วย อนุมัติโดยอนุทินทุกเรื่อง ด้วยความที่เราเข้าใจถึงความจำเป็น วันนี้มาอยู่ตรงนี้แล้วท่านก็ช่วยทำให้มันเร็วเป็น One stop shopping ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน เรื่องสาธารณสุขตนไม่เป็นกลาง ตนเอียงเข้าข้างสาธารณสุขอยู่แล้ว เพราะการได้เอียงเข้าข้างคนในวงการสาธารณสุข จะสามารถทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนได้อย่างมหาศาลโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพชีวิต
"มาวันนี้ ถ่านไฟเก่ายังอยู่ เชื่อว่า ทุกท่านเข้าใจความผูกพันที่ผมมีกับกระทรวงสาธารณสุข รักกันไม่มีวันหมดอายุ ขอให้เรามั่นใจซึ่งกันและกันจะเร่งสร้างสิ่งดีงามให้กับระบบสาธารณสุข ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชน เราเชื่อใจกันแล้วอย่างอื่นก็เป็นเรื่องง่าย" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายอนุทินลงจากเวทีข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขและ อสม. ได้เข้ามารุมล้อม นายอนุทิน ขอเซลฟี่ พร้อมมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ บางส่วนตะโกนให้กำลังใจว่า "นายกฯสู้ๆ"