KEY
POINTS
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ภายใต้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบน่าจะชัดเจนว่าจะได้ดำรงตำแหน่ง รมว. คมนาคม แต่จะมีนโยบายอย่างไรก็ขอให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ชี้แจงว่าเรื่องเร่งด่วนคืออะไร
ทั้งนี้ อะไรที่เป็นข้อกังขาระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ดินเขากระโดงน่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นแรกๆ เพื่อสร้างความกระจ่างให้ประชาชนไทยทั้งประเทศได้ทราบว่า โดยสรุปของ 2 กระทรวงจะดำเนินการอย่างไร
“เรื่องเขากระโดงน่าจะทำเป็นนโยบายแรกๆว่าระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กรมที่ดินจะมีการเดินไปอย่างไร จะต้องมีการหารือ หรือต้องไปถึงระดับศาลฯตัดสินหรือไม่ โดยดีที่สุดมองว่าน่าจะเป็นเรื่องของการให้ รฟท. ได้กระทำในส่วนที่สามารถทำได้“
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งแรกที่ตนจะดำเนินการหลังจากที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ และถวายสัตย์ฯ เรื่องที่ดินเขากระโดงจะเป็นภารกิจที่จะทำ ซึ่งจะมีการหาหรือกับนายกฯ อีกครั้ง โดยที่นายกฯจะได้เป็น รมว. มหาดไทยอีกหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้ประชานไทยได้สบายใจว่า สรุปแล้วที่ดินเขากระโดงควรจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ดี หากถามว่าจะเกิดข้อกังขาหรือไม่ที่พรรคภูมิใจไทยได้กำกับดูแลทั้ง 2 กระทรวงที่กำลังมีประเด็นปัญหาอยู่ มองว่ายิ่งพรรคภูมิใจไทยได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทิน และตนซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาดจะได้รับตำแหน่ง รมว.คมนาคม ยิ่งต้องทำให้สิ่งที่คาใจได้หายคาใจให้ได้
แม้ว่าใน 2 กระทรวงดังกล่าวจะเป็พรรคภูมิใจไทยที่ได้กำกับดูแลแต่ไม่เกี่ยวข้องกัน เป็นเรื่องของที่ดิน เป็นเรื่องของชาติ ก็ต้องทำให้กระจ่างว่าที่ดินที่ได้มาทั้ง 900 กว่ารายควรต้องทำอย่างไร หาก รฟท. สามารถฟ้องเป็นรายแปลงได้ก็จะรีบดำเนินการทันที
”เราตั้งธงไว้ว่าต้องรีบดำเนินการทันที“
ส่วนระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาลจะเพียงพอต่อการดำเนินการให้กระจ่างหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจว่าจะนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายได้แล้วเสร็จหรือไม่ แต่ใน 4 เดือนตนจะให้ รฟท. เริ่มดำเนินการทันที
ด้านคำถามที่ว่ากังวลหรือไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นดาบ 2 คม หากทำได้ดีก็ดีไปเลย แต่หากไม่ดีก็จะถูกวิพากวิจารณ์ มองว่าอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้กระจ่างก็เป็นเรื่องทางกฎหมายที่ต้องดำเนินการต่อไป แต่ยืนยันว่าไม่ใช่มวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน และคนไทยต้องได้รับความกระจ่าง