KEY
POINTS
วันที่ 11 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงจุดยืนกรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยไม่เปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
นายชูศักดิ์ ระบุว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวมีหลายประเด็นที่สับสน โดยเฉพาะการปิดทางให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการจำกัดสิทธิที่ขัดต่อหลักการอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน แม้จะทำให้เกิดอุปสรรคมากขึ้น แต่พรรคเพื่อไทยยังยืนยันต้องเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย
นายชูศักดิ์ อธิบายแนวทางว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องแก้ไขผ่านหมวด 15 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะเสนอให้รัฐสภาแก้ไขหมวดดังกล่าว ผ่านการพิจารณา 3 วาระ ก่อนนำไปทำประชามติตามมาตรา 256(8)
“ในเมื่อไม่สามารถจัดตั้ง สสร. จากการเลือกตั้งโดยตรง พรรคเพื่อไทยมองว่า อาจใช้วิธีเลือกทางอ้อม เช่น ให้รัฐสภาตั้ง สสร. เอง หรือแต่งตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาดำเนินการ โดยจะตั้งคณะทำงานพิจารณาวิธีการและเสนอในร่างแก้ไขหมวด 15 ที่จะยื่นต่อรัฐสภาเร็วที่สุด คาดว่าสัปดาห์หน้า” นายชูศักดิ์ กล่าว
สำหรับการทำประชามติ นายชูศักดิ์ เห็นว่า ควรถามประชาชน 2 คำถาม คือ 1.เห็นสมควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และ 2. เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ โดยจะทำประชามติครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 แยกหรือรวม ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล
ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสริมว่า พรรคจะเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเปิดทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยหวังว่า พรรคการเมืองต่าง ๆ จะร่วมมือ ไม่แบ่งฝักฝ่าย เพื่อสร้างกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นฉบับประชาธิปไตยจริง
นายจาตุรนต์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาควบรวมการทำประชามติครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ให้เหลือครั้งเดียว เพื่อลดความซ้ำซ้อนและประหยัดงบประมาณ แต่ทั้งหมดต้องหารือร่วมกันว่า จะปรับแก้มาตรา 256 อย่างไร และขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาลว่าจะจริงใจผลักดันเรื่องนี้หรือไม่