ชมรมมัคคุเทศน์จี้นายกฯดันธุรกิจท่องเที่ยวเข้า ‘คนละครึ่ง’

10 ก.ย. 2568 | 03:58 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 03:58 น.

ชมรมมัคคุเทศน์ยื่นหนังสือขอนายกฯดันผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้า ‘คนละครึ่ง’ หาแหล่งเงินกู้เสริมสภาพคล่องด่วน และปราบชาวต่างชาติลักลอบทำงาน

KEY

POINTS

  • กลุ่มมัคคุเทศก์ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เสนอให้นำธุรกิจท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และบริษัททัวร์ เข้าร่วมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง 'คนละครึ่ง'
  • ชี้ว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวปัจจุบันตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
  • เรียกร้องมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การจัดหาแหล่งเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง และการปราบปรามชาวต่างชาติที่ลักลอบทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างจริงจัง

นายไพศาล ซื่อธานุวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มไกด์ไทยรวมใจสู้ เปิดเผยว่า วันนี้ (10 ก.ย. 68) จะนำหนังสือไปยื่นให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับข้อเสนอแนะด้านการท่องเที่ยวและขอทราบผลการดำเนินการ

โดยทางกลุ่มฯ ขอเรียนขี้แจงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวและข้อเสนอแนะต่างๆ ประกอบด้วย

สถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบันนับว่าตกต่ำที่สุดนับจากการระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านพ้นไป โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีจำนวนลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวภาษาจีน (จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง จีนมาเลย์ และอื่นๆ) จนทำให้ผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวส่วนใหญ่แทบไม่สามารถดำรงอยู่ได้

ข้อเสนอแนะ

  • ขอให้พิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการต่างๆในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน
  • หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆในอนาคต อาทิ นโยบายคนละครึ่งขอให้พิจารณาให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร รถขนส่ง สถานที่ท่องเที่ยวและอื่นๆ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้

ชมรมมัคคุเทศน์จี้นายกฯดันธุรกิจท่องเที่ยวเข้า ‘คนละครึ่ง’

ปัญหาชาวต่างชาติแย่งอาชีพและทำลายธุรกิจของคนไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ข้อเสนอแนะ

  • ขอให้บังคับใช้กฎหมายปราบปรามชาวต่างชาติที่ลักลอบทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและผู้ว่าจ้างอย่างจริงจัง
  • ปรับลดช่วงเวลาที่อนุญาติให้ชาวต่างชาติในกรณีฟรีวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวพำนักในราชอาณาจักร จาก 60+30 วัน ให้คงเหลือเพียง 30 วัน
  • สืบหาและคําเนินศดีผู้ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกทุนต่างชาติสีเทาที่เข้ามาเอารัดเอาปรียบผู้ประกอบการชาวไทย
  • หยุดส่งเสริม OTA ต่างชาติ และหามาตรการทางภาษีบังคับใช้กับ OTA ต่างชาติ เพื่อดความเสียเปรียบในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการชาวไทย

ความไม่ชัดเจนของนโยบายกัญชา สร้างผลเสียต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวมากกว่าผลดี

ข้อเสนอแนะ

  • ออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกัญชาให้ชัดเจนและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยตกต่ำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมุมมองของนักท่องเที่ยวตลาดผู้ใช้ภาษาจีน

ข้อเสนอแนะ

  • ขอให้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอเพื่อปราบปรามเหตุอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยว
  • ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้เผแพร่ข่าวปลอมที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทย โดยขอให้ดำเนินการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • ขอให้พิจารณาคัดสรรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและความเข้าใจด้านการท่องเที่ยว มีภาพลักษณ์ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและก็ฬา

อนึ่ง กลุ่มใกด์ไทยรวมใจสู้ ได้เคยเดินทางมายื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในวันที่ 21 มิอุบายน 2566 และวันที่ 8 กันขาขน 2566 โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ดังนี้

  • ขอให้หาแนวทางปราบปรามชาวต่างชาติผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
  • ขอให้สนับสนุนคนไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
  • ขอให้ยื่นร่าง พรบ.สภามัคคุเทศก์ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

มาบัดนี้เวลาได้ผ่านไป 2 ปีแล้ว ทางกลุ่มฯจึงขอทราบความคืบหน้าในการดำเนินการของพรรคภูมิใจใจ ไทยตามข้อเรียกร้องข้างต้น