กลุ่มไกด์ไทย ร้องนายกฯอนุทิน ขอความชัดเจน ‘นโยบายกัญชา’

10 ก.ย. 2568 | 06:51 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 07:09 น.

กลุ่มไกด์ไทยยื่นหนังสือร้องนายกฯอนุทิน ขอความชัดเจน ‘นโยบายกัญชา’ หลังสร้างผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และขอร่วมโครงการคนละครึ่ง

KEY

POINTS

  • กลุ่มมัคคุเทศก์ไทยยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายกัญชา เนื่องจากส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ
  • สะท้อนปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง โดยเฉพาะตลาดจีน ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อน จึงเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือทางการเงินและปราบปรามชาวต่างชาติที่ทำงานผิดกฎหมาย
  • เรียกร้องให้แก้ปัญหาทุนต่างชาติสีเทาและบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ที่เอาเปรียบผู้ประกอบการไทย พร้อมเสนอให้ปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว

นายไพศาล ซื่อธานุวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มไกด์ไทยรวมใจสู้ และคณะเดินทางมาที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพื่อยื่นข้อเสนอแนะด้านการท่องเที่ยว ถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นผู้รับเรื่อง 

นายไพศาล ตัวแทนกลุ่มไกด์ไทยรวมใจสู้ กล่าวสะท้อนถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในปัจจุบันว่า ตกต่ำที่สุดนับจากการระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านพ้นไปโดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีจำนวนลดลง 

โดยเฉพาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวภาษาจีน (จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง จีนมาเลย์ และอื่น ๆ) จนทำให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวส่วนใหญ่แทบไม่สามารถดำรงอยู่ได้

สำหรับการยื่นหนังสือในครั้งนี้ขอให้รัฐบาลพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต เช่น นโยบาย "คนละครึ่ง" ก็ขอให้พิจารณาให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร รถขนส่ง สถานที่ท่องเที่ยว สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ด้วย

กลุ่มไกด์ไทยร้องนายกฯ ขอชัดเจน ‘กัญชา’ หลังสร้างผลเสียท่องเที่ยว

นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายปราบปรามชาวต่างชาติที่ลักลอบทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและผู้ว่าจ้างอย่างจริงจัง รวมทั้งการปรับลดช่วงเวลาที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติในกรณีฟรีวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว พำนักในราชอาณาจักร จาก 60+30 วัน ให้คงเหลือเพียง 30 วัน

,การสืบหาและคำเนินคดชดีผู้ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกทุนต่างชาติสีเทา ที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการชาวไทย และหยุดส่งเสริม Online Travel Agency (OTA) ต่างชาติ รวมทั้งนำมาตรการทางภาษีบังคับใช้กับ OTA ต่างชาติ เพื่อลดความเสียเปรียบในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการชาวไทย

ขณะที่ปัญหาความไม่ชัดเจนของนโยบายกัญชา สร้างผลเสียต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวมากกว่าผลดี โดยเสนอให้ออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกัญชาให้ชัดเจน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

นายไพศาล กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยตกต่ำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมุมมองของของนักท่องเที่ยวตลาดผู้ใช้ภาษาจีน จึงขอให้รัฐบาลดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องปรามเหตุอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยว และขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้เผยแพร่ข่าวปลอมที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทย และที่สำคัญ ขอให้พิจารณาคัดสรรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และความเข้าใจด้านการท่องเที่ยว มีภาพลักษณ์ซื่อสัตย์สุจริต มาดำรงตำแหน่ง รมว.ท่องเที่ยวเละกีฬา

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มไกด์ไทยรวมใจสู้เคยเดินทางมายื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.66 และ 8 ก.ย.66 จนถึงวันนี้เวลาผ่านไป 2 ปีแล้วทางกลุ่มฯ จึงขอทราบความคืบหน้าในการดำเนินการของพรรคภูมิใจไทยตามข้อเรียกร้องที่เคยเสนอไว้ ประกอบด้วย 

  • ขอให้หาแนวทางปราบปรามชาวต่างชาติผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
  • ขอให้สนับสนุนคนไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
  • ขอให้ยื่นร่าง พ.ร.บ.สภามัคคุเทศก์ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จะนำเรื่องเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ส่วนของนโยบายกัญชานั้น ขอยืนยันไม่ได้สนับสนุนให้นำกัญชาไปใช้เพื่อสันทนาการ แต่เป็นการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งผู้ใช้ต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่เกิดปัญหาขัดข้องทางข้อกฎหมาย ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบัน เป็นที่รับรู้แล้วว่าการแก้ไขกฎหมายดัง

ภายหลังการยื่นหนังสือดังกล่าวนายไพศาล ตัวแทนกลุ่มไกด์ฯ ให้สัมภาษณ์กับ ฐานเศรษฐกิจ โดยสะท้อนความเห็นต่อประเด็นกัญชาว่า ที่ผ่านมานั้น ไม่มีความชัดเจนทำให้ไม่สามารถที่จะตอบคำถามกับกลุ่มนักท่องเที่ยวได้เนื่องจากอาจจะอยากทดลองก็มีการถามเข้ามาแต่ก็อธิบายไม่ได้ 

อย่างไรก็ดี ด้วยระยะเวลาจำกัดในช่วง 4 เดือน คาดหวังว่า จะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่เป็นรูปธรรมออกมาบ้างโดยเรื่องเร่งด่วนที่สุด คือ ต้องการให้หาวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้กลุ่มภาคท่องเที่ยวได้เข้ามีส่วนร่วม ซึ่งได้นำเรียนไปว่า อย่างนโยบายคนละครึ่งก็อยากให้ผู้ประกอบการรายเล็ก รายน้อย SME และการท่องเที่ยวสามารถเข้ามีส่วนร่วมได้ เช่น ร้านนวดแผนโบราณ โรงแรม ร้านอาหาร และโฮมสเตย์ เป็นต้น 

"หากมีโอกาสที่จะเข้าร่วมได้ก็จะสามารถที่จะยังประกอบอาชีพอยู่ได้ เลี้ยงตัวเองได้ เพราะในขณะนี้เรียนตามตรงว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างซบเซา เรียกว่า ซบเซามาก“

ถามถึงคุณสมบัติที่อยากให้ในตัวรมว.ท่องเที่ยวคนใหม่ นายไพศาล กล่าวว่า ในส่วนของท่องเที่ยวแน่นอนว่า ต้องการได้ท่านที่มีความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจด้านการท่องเที่ยว มีภาพลักษณ์ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งตนว่าเป็นควอลิฟายขั้นพื้นฐานของบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่แล้ว