'พัฒนา พร้อมพัฒน์' จ่อนั่งเก้าอี้ รมว.สาธารณสุข คนใหม่  

09 ก.ย. 2568 | 18:00 น.

จับตาโผ ครม. อนุทิน 1 'พัฒนา พร้อมพัฒน์' บุตรชาย 'สันติ พร้อมพัฒน์' เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ลุ้นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แทน หลังบิดาเสี่ยงขาดคุณสมบัติ

KEY

POINTS

  • นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ มีชื่อเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ แทนบิดา (นายสันติ พร้อมพัฒน์) ที่อาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ
  • นายพัฒนาเป็นบุตรชายของนายสันติ พร้อมพัฒน์ จบการศึกษาปริญญาโทด้านอสังหาริมทรัพย์ และเคยได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง
  • เคยตกเป็นข่าวกรณีการซื้อขายอาคาร SKYY9 ที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดซื้อในราคาสูงซึ่งเจ้าตัวได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง

โผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ยังต้องเกาะติดลุ้นกันถึงวินาทีสุดท้าย เนื่องจากยังคงมีการปรับเปลี่ยนรายชื่อตลอดเวลา ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขหลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรากฎชื่อของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐว่าจะเข้ามานั่งในตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ต้องพลิกโผกันอีกรอบหลังเกิดกระแสข่าวว่า นายสันติอาจขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี เนื่องจากมีประวัติว่า เคยถูก ม.รามคำแหง ไล่ออกจากการเป็นนักศึกษาเพราะเหตุปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษาเพื่อให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทนและยังปลอมใบอนุญาตขับรถยนต์ในปี 2542

ล่าสุด มีรายงานว่า นายสันติ เตรียมส่ง นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายเข้ามานั่งเก้าอี้ รมว.สาธารณสุข แทน

สำหรับ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ ลูกชายของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จบปริญญาโทจากอังกฤษด้านอสังหาริมทรัพย์

ปรากฎเป็นข่าวครึกโครมช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 หลังจากที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เข้าซื้ออาคาร SKYY9 ในมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาทโดยมีข้อสงสัยว่า เป็นการซื้อจากบริษัทของนายพัฒนาหรือไม่ และการซื้อขายตึกในราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เกินจริงหรือไม่ด้วย

จากกระแสวิพากวิจารณ์ดังกล่าว นายพัฒนาในฐานะผู้บริหารบริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ได้ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงด้วยตัวเองยืนยันว่า เขาไม่เคยพบ ไม่เคยเจอและไม่รู้จักกับบอร์ด สปส. ทั้งยังไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน และไม่ได้มีดีลพิเศษจากตระกูลของตัวเอง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน

นายพัฒนา ระบุว่า บริษัทฯได้ซื้ออาคารแห่งนี้มาเมื่อปี 2560 ซึ่งในขณะนั้นอาคารหลังนี้เป็นอาคารร้าง สภาพทรุดโทรม ไม่สามารถใช้งานได้ ต่อมาได้ขายและโอนกรมสิทธิ์ให้กับ บริษัท เอจีอาร์อี 101 ในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ในราคา 2,000 ล้านบาท

"บริษัทได้ชำระเงินแล้วโอนกรรมสิทธิ์โดยไม่มีปัญหาซึ่งผู้ซื้อไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับบริษัทที่เป็นผู้ขาย และตนไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้ติดต่อ และไม่ได้ติดตามหลังจากที่ทำการขายโอนกรรมสิทธิ์จบสิ้นแล้วและไม่เกี่ยวกับผู้ซื้อต่อไป ทราบว่า ผู้ซื้อไปมีจุดประสงค์ที่จะปรับปรุงอาคารนี้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เพื่อประกอบธุรกิจตามที่ได้วางแผนไว้" นายพัฒนากล่าว

ทั้งยังยืนยันหนักแน่นว่า เขาและบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ซื้อ และไม่ทราบว่า อาคารเหล่านี้ได้เปลี่ยนมือเป็นของใคร ราคาเท่าไร มาทราบเรื่องพร้อมกับการที่ประกันสังคมได้ซื้ออาคารหลังนี้ไปตามที่เป็นข่าว

"ยืนยันว่า ไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ ไม่รู้จักกับผู้ใดในประกันสังคมและไม่รู้จักกรรมการหรือผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งในประกันสังคมหรือในกระทรวงแรงงาน จึงขอมาชี้แจงว่า บริษัทได้ขายอาคารเหล่านี้ให้แก่ บริษัทเอจีอาร์อี 101 เท่านั้น และไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ อีก"

จากความรู้ความสามารถด้านอสังหาริมทรัพย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกฯและรมว.มหาดไทย ได้มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งนายพัฒนา เป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง แทนนายปรีชา กุลไพศาล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ขอลาออกจากตำแหน่งไปก่อนจะครบวาระด้วย