สรุปผลโหวตเลือกนายกฯคนที่ 32 ล่าสุด 'อนุทิน' ชนะ 'ชัยเกษม' 311 ต่อ 152 เสียง

สรุปผลการลงคะแนนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ในวันนี้ 5 กันยายน 2568)

เป็นการลงคะแนนโหวตแบบขานชื่อ สส.รายบุคคลได้เสร็จสิ้นลงไปแล้วเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย ได้เสียงส่วนใหญชนะนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย

ทำให้นายอนุทินได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทย ด้วยคะแนนโหวตดังนี้

• นายอนุทิน 311 คะแนน
• นายชัยเกษม 152 คะแนน
• งดออกเสียง 27 เสียง
• ลงคะแนนทั้งหมด 490 เสียง

หลังจากนี้เมื่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบแล้ว นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จะเป็นผู้นำรายชื่อนายอนุทินขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการต่อไป

วาระสำคัญนี้เดิมทีถูกบรรจุเป็นเรื่องด่วนลำดับที่ 8 และท้ายที่สุดถูกขยับขึ้นมาเป็นวาระที่ 2 ตามมติของฝ่ายสนับสนุนนายอนุทิน

โดยเวลา 11.35 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลื่อนวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากวาระที่ 8 ขึ้นมาเป็นวาระที่ 2 เพื่อพิจารณาทันที โดยมีผู้แสดงตน 464 คน ลงมติ เห็นชอบ 313 เสียง ไม่เห็นชอบ 142 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และไม่ลงคะแนน 5 เสียง

การลงมติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการถกเถียงยืดเยื้อระหว่างฝ่ายที่เสนอให้เลื่อนวาระขึ้นมาโหวตทันที กับฝ่ายที่ต้องการให้ดำเนินการประชุมวาระตามปกติก่อนนานกว่า 2 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 12.05 น. เริ่มกระบวนการโหวตเลือกนายกฯคนที่ 32  โดยนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นบุตรชายของนายเนวิน ชิดชอบ ลุกขึ้นเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี และจากนั้นนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.พรรคเพื่อไทย ก็ลุกขึ้นเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อทันที

เท่ากับว่ามีเพียงชื่อของนายอนุทิน และนายชัยเกษม ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเพียง 2 ชื่อ เพื่อให้สภาโหวตเลือก

ขั้นตอนการโหวตและคะแนนตัดสิน

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะต้องได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ซึ่งปัจจุบันคือ 247 เสียงขึ้นไป จากจำนวน สส. ทั้งหมด 492 คน ผู้ถูกเสนอชื่อแต่ละคนจะต้องได้รับการรับรองจาก สส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน สส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ หรืออย่างน้อย 50 คน

การลงมติจะดำเนินไปอย่างเปิดเผยด้วยวิธีการขานชื่อ สส. เรียงตามลำดับตัวอักษร ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา คาดการณ์ว่ากระบวนการลงมติในวันนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงแล้วเสร็จ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อไม่จำเป็นต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม และจะไม่มีการเปิดให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายคุณสมบัติหรือนโยบายของผู้ถูกเสนอชื่อก่อนการลงมติ

การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากกรณีคลิปสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งส่งผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย และนำไปสู่กระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามรัฐธรรมนูญ