เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การจัดสรรงบประมาณท้องถิ่น ภายใต้กรอบวงเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาทว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยกำลังตรวจสอบ และจัดการปัญหาการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเกิดขึ้นจากการดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
“มีการร้องเรียนเข้ามาหลายกรณีว่า การจัดงบกระจุกตัว บางพื้นที่ของ อบต. อบจ. ไม่เคยได้เลย หรือได้เพียง 1-3 ล้านบาท แต่บางพื้นที่โดยเฉพาะในจังหวัดอย่างบุรีรัมย์ หรือ สุรินทร์ กลับได้มากถึง 700 ล้านบาท ต้องตรวจสอบว่าใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน” นายภูมิธรรม ระบุ
รองนายกฯและรมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ขณะนี้งบประมาณชุดดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ และมีประเด็นเพิ่มเติมจากการตรวจสอบพบว่า เอกสารที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ลงนามไว้ ไม่ตรงกับข้อมูลที่คีย์เข้าระบบของสำนักงบประมาณ ส่งผลให้ต้องส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงมหาดไทยเพื่อทบทวนอีกครั้ง
ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ได้ตั้งข้อสังเกตว่า งบกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของ อปท. กระจุกตัวอยู่ในบางจังหวัดอย่างผิดสังเกต
“บาง อบต. ขนาดเล็กกลับได้รับงบถึง 60-70 ล้านบาท ขณะที่อีกหลายพื้นที่กลับไม่ได้รับงบเลย เทศบาลหลายแห่งเพิ่งจัดตั้งใหม่ ยังไม่ได้รับรองจาก กกต. ยิ่งเสียโอกาสในการเข้าถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจไปอีก” นายเดชอิศม์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพื้นที่ที่งบกระจุกตัวเป็นฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ ตอบว่า “น่าจะเป็นเช่นนั้น กระจุกตัวจนดูน่าเกลียด” พร้อมยืนยันว่า คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ จะประชุมใน 1-2 วันนี้ เพื่อพิจารณาแนวทางการเกลี่ยงบใหม่ให้ทั่วถึง
ทั้งนี้ งบประมาณยังไม่ถูกจัดสรรลงพื้นที่ใดอย่างเป็นทางการ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและสำนักงบประมาณ จะเร่งดำเนินการพิจารณาใหม่ให้เกิดความโปร่งใสและเท่าเทียม