จัดทัพบิ๊กมหาดไทย“เพื่อไทย”เดินเกมเร็วรับเลือกตั้งใหญ่

09 ก.ค. 2568 | 00:00 น.

“ภูมิธรรม”เดินเกมเร็วสั่งย้าย 2 อธิบดีมหาดไทยเข้ากรุ ดันผู้ว่าฯ สายแอคทีฟเสียบ เตรียมพร้อมรองรับภารกิจทั้งแก้ยาเสพติด-เร่งนโยบาย-ปลุกคะแนนเสียงรับเลือกตั้งใหญ่

KEY

POINTS

  • ครม.เห็นชอบโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะอธิบดี 2 กรมสำคัญ กรมการปกครอง และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ไปเป็นผู้ตรวจ และแต่งตั้งคนใหม่เข้าแทนที่
  • การปรับทัพครั้งนี้ถูกมองว่า เป็นการจัดวางกลไกอำนาจของพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ที่ไม่ไกลนัก 
  • แม้ รมว.มหาดไทย จะให้เหตุผลว่า การโยกย้ายเกิดจากปัญหาการทำงานที่ไม่ตอบสนองนโยบาย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด แต่ถูกมองว่า เป็นการล้างบางขั้วอำนาจเก่า และสร้างฐานอำนาจใหม่ 

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเมืองไทย หลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลจะไปต่อได้อย่างไร และจะเลือกทาง “ลาออก-ยุบสภา” หรือ “ปรับทัพ” เพื่อประคองอำนาจต่อ  

ระหว่างนี้ “กระทรวงมหาดไทย” ได้กลายเป็นหมากตัวสำคัญที่ถูกใช้ “ขยับกระดานอำนาจ” อย่างเห็นได้ชัด  

โดยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ตามที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เสนอ โดยเฉพาะการ “เด้งฟ้าผ่า” ข้าราชการระดับอธิบดีถึง 2 ราย เข้าสู่ตำแหน่งผู้ตรวจราชการ และดันคนใหม่เข้ามาเสียบแทนอย่างมีนัยยะ

โผโยกย้ายมท.สะเทือนอำนาจ 

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ถูกโยกไปเป็นผู้ตรวจราชการ 

นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ถูกโยกไปเป็นผู้ตรวจราชการ 

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมการปกครอง

ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 

การโยกย้ายครั้งนี้ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในช่วงที่การเมือง เสถียรภาพ “รัฐบาลแพทองธาร” กำลังสั่นคลอน แต่ยังสะท้อนถึง “การจัดทัพ” ในเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อวาง “เครื่องจักรกลราชการ” ให้สอดรับกับทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล รวมถึงบทบาทของข้าราชการในสนามการเลือกตั้งระดับ ส.ส. ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

จัดทับ มท.รับเลือกตั้งใหญ่ 

แม้ นายภูมิธรรม จะปฏิเสธอย่างแข็งขันว่า “ยังไม่คิดถึงเรื่องเลือกตั้ง” แต่ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย บ่งบอกถึงการ “จัดแถวอำนาจ” อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของอธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการควบคุม “อำนาจทางพื้นที่” ทั่วประเทศ 

มองกันว่า การปลด นายไชยวัฒน์ และ นายนฤชา พ้นจากอธิบดี อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาการบริหารงานล่าช้า ไม่ตอบโจทย์เชิงนโยบาย โดยเฉพาะประเด็นยาเสพติด ที่ นายภูมิธรรม ชูเป็นวาระแห่งชาติ 
ทั้ง นายไชยวัฒน์ ยังถูกมองเป็นข้าราชการที่ใกล้ชิดกับกลุ่มการเมืองสายสีน้ำเงิน อดีตพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเคยมีบทบาทมากในยุคของพรรคภูมิใจไทย  

คำกล่าวของ นายภูมิธรรม ที่ว่า “ไม่มีสี มีแต่สีมหาดไทย” บ่งบอกถึงความพยายามจะดึงข้าราชการกลับสู่บทบาทมืออาชีพภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย 

แต่ในความเป็นจริง การปลดคนเก่า ดันคนใหม่ โดยเฉพาะการตั้ง “นิรัตน์” จากผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นฐานเสียงของเพื่อไทย มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ก็ไม่อาจตัดข้อกล่าวหาว่า เพื่อไทยกำลัง “เซ็ตซีโร่” อำนาจมหาดไทย เพื่อเตรียมพร้อมสู่สนามเลือกตั้ง ได้เช่นกัน

“ภูมิธรรม”ปัดโยงการเมือง  

นายภูมิธรรม กล่าวชัดเจนว่า การย้ายอธิบดีไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง แต่เกี่ยวกับ “การทำงานที่ไม่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด” ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญที่ตนใช้เป็นเกณฑ์วัดข้าราชการระดับสูงทั่วประเทศ พร้อมระบุด้วยว่า มีลิสต์รายชื่ออยู่แล้วว่า “ใครแอคทีฟ–ใครตีกอล์ฟ” 

คำพูดนี้ สะท้อนว่า การโยกย้ายยังไม่จบแค่รอบเดียว แต่จะเป็นกระบวนการ “เอ็กซเรย์ทั่วประเทศ” ทั้งในส่วนของอธิบดี ผู้ตรวจราชการ ไปจนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการประสานงานนโยบายรัฐบาลกับภาคประชาชนโดยตรง

มท.อาวุธลับรักษาอำนาจ

ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย กระทรวงมหาดไทยถือเป็นหนึ่งในกลไกหลักของรัฐ ที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการสนามเลือกตั้ง ทั้งการประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, การควบคุมงบประมาณจังหวัด, การจัดกิจกรรมภาครัฐ และ แม้กระทั่งการเคลื่อนไหวเชิงนโยบายที่มีผลกระทบต่อคะแนนเสียง

จึงไม่แปลก ที่ทุกพรรคการเมือง เมื่อก้าวเข้ามาเป็นรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการแต่งตั้งตำแหน่งในสายงานกระทรวงมหาดไทย  

แม้ในระบอบประชาธิปไตย ข้าราชการควรเป็นกลางทางการเมือง แต่ในทางปฏิบัติ “การเข้าถึง-ควบคุม-เชื่อมโยง”กับระบบราชการ ก็ยังคงเป็น “อาวุธลับ” ที่ทุกพรรคการเมืองใช้ในการรักษาอำนาจ 

การเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่านมา ก็มักมีข้อวิพากษ์เกี่ยวกับบทบาทของข้าราชการระดับจังหวัด ที่อาจ “เอื้อประโยชน์” ให้กับพรรคการเมืองบางพรรค และในหลายกรณีพบการแทรกแซงนโยบายและงบประมาณระดับจังหวัด เพื่อสนับสนุนการเมืองระดับชาติอย่างแยบยล 

ดังนั้น การที่ “เพื่อไทย” ซึ่งอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของรัฐบาล เริ่มปรับโครงสร้าง “มหาดไทย” ด้วยการแต่งตั้งคนใกล้ชิดทางนโยบาย เข้าคุมกลไกระดับอธิบดี ก็ยิ่งสะท้อนว่า พรรคอาจกำลังเตรียมพร้อม “ยุทธศาสตร์พื้นที่” สำหรับศึกเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้น ไม่ช้าก็เร็ว

                                 จัดทัพบิ๊กมหาดไทย“เพื่อไทย”เดินเกมเร็วรับเลือกตั้งใหญ่

ล้างบางสายเก่า-ดันสายใหม่

แม้ นายภูมิธรรม จะย้ำว่า การโยกย้ายข้าราชการไม่ได้มีนัยทางการเมือง แต่ทุกคำสั่ง ทุกชื่อที่ถูกแต่งตั้ง หรือ ถูกปลด ย้อมล้วนสะท้อนกลยุทธ์การปรับฐานอำนาจของรัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากจังหวะทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอนในเวลานี้

กระบวนการ “ล้างบางสายเก่า-ดันสายใหม่” ในกระทรวงมหาดไทย จึงไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพเชิงราชการเท่านั้น แต่ยังเป็นหมากหนึ่งในกระดานการเมือง เพื่อจัดทัพเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างรอบด้าน 

มหาดไทยวันนี้...ไม่ใช่แค่กระทรวง แต่เสมือนเป็น "กองบัญชาการเลือกตั้ง" ของรัฐบาลเพื่อไทย 

บทบาทนี้ยังคงดำเนินต่อไป และจะยิ่งทวีความสำคัญเมื่อสัญญาณเลือกตั้งใหญ่เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ 

                                +++++++++

มาจากการเมือง-ไปเพราะการเมือง 

วันที่ 8 ก.ค. 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 4 ตำแหน่ง ดังนี้

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ตรวจราชการ, นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ตรวจราชการ, นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เป็นอธิบดีกรมการปกครอง, ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

สำหรับการย้าย ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ จากอธิบดีกรมการปกครอง ถือเป็นการลดชั้นมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

ไชยวัฒน์ เกิด 12 มี.ค. 2508 จบคณะนิติศาสตร์  ม.รามคำแหง เกษียณอายุราชการ ปี 2568

ไชยวัฒน์ เติบโตจากบุรีรัมย์นิเวศน์ ก้าวขึ้นเป็น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในปี 2567 , อดีตผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ปี 2566, อดีตรองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ปี 2564, อดีตนายอำเภอประโคนชัย จ.บุรีรัมย์

ไชยวัฒน์ ถูกลดชั้นจากอธิบดีกรมการปกครอง เป็น ผู้ตรวจราชการฯ เป็นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของกระทรวงมหาดไทย

ส่วน นฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครอง ก็ถูกลดชั้นมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย หลังขึ้นลิฟต์มาเป็นอธิบดีได้ 1 ปี

นฤชา โฆษาศิวิไลซ์ เกิด 26 มี.ค. 2510 ถูกย้ายจากผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2566  มาเป็น อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เมื่อ ตุลาคม 2567 เกษียณอายุราชการ ปี 2570

ช่วงเดือน ก.ย. 2567 กระทรวงมหาดไทย ที่มี อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้ากระทรวง ได้ย้าย ขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปเป็น รองปลัดกระทรวงมหาดไทย

แซงหน้า ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯ นครราชสีมา และ นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่

แต่มายุค “พรรคเพื่อไทย” คุมกระทรวงมหาดไทย นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ได้ขึ้นชั้นจาก ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ นั่งอธิบดีอธิบดีกรมการปกครอง

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ถือได้ว่าเป็น "ตั๋วการเมือง" มาจากการเมือง ก็ไปเพราะการเมือง ว่าอย่างนั้นเถอะ...