'ทักษิณ' ประกาศตัดเพื่อนฮุน เซน แฉเหลี่ยมโทรเข้ามือถืออุ๊งอิ๊งค์

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบคำถาม 3 บก. ในงาน "55 ปี เนชั่น Exclusive Talk ผ่าทางตันประเทศไทย" เป็นการเปิดใจและเปิดเผยรายละเอียดครั้งแรกหลังเกิดความขัดแย้งกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จากการแอบบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้วถูกนำไปเผยแพร่ สร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

 

 

ความสัมพันธ์ 33 ปี จบลงด้วยการบันทึกเสียง

นายทักษิณ กล่าวและน้ำตาคลอว่า "ตอนนี้ไม่เป็นเพื่อนกันแล้ว แหม ทำลูกผมขนาดนี้เนี่ย หนักเกินไปไหม สำหรับคนที่รู้จักกันมา 32 -33 ปีนะ ผมถึงกับช็อกเลย ช็อกความรู้สึกเลยว่ะ มันเกิดขึ้นได้ไง" 

 

 

เหตุการณ์การรอรับสาย 3 ชั่วโมง

นายทักษิณเผยรายละเอียดเหตุการณ์ก่อนการสนทนาที่ถูกบันทึกว่า นางสาวแพทองธารก็จะโทรคุยตรงกับผม วันนั้นเข้ามาบอกว่าพ่อเดี๋ยวจะไปที่ฮุนเซน จะมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหมขณะนั้น รวมทั้ง รมว.ต่างประเทศ และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมี "ฮวด" จะต่อสายให้คุย  โดยไปกัน 3 คนไปรออยู่ด้วยกัน ยืนยันว่าไม่ได้ไม่ได้ไปคนเดียว เพื่อรอรับสายฮุนเซน

นายทักษิณ เล่าต่อว่า ฮวดอยู่ฝั่งนี้รอ 3 ชั่วโมง เขาบอกว่าเขาหลับ อ้างว่าหลับ เขาถ่ายรูปมาให้ด้วย  เมื่อคณะผู้แทนไทยรอนานเกือบ 3 ชั่วโมงครับ นางสาวแพทองธารก็รอ 2 ชั่วโมงก็โทรมาบอก ตนก็บอกว่ากลับมา ไม่มารอหรอก ทีนี้พอกลับไปแล้ว คณะที่มาก็แยกย้ายกัน จากนั้นฮุนเซนก็มาโทรเข้ามือถือส่วนตัวของอิ๊งค์

 

 

เมื่อ 3 บก.ถามว่า แสดงว่าสงสัยว่าจะมีคนไปบอกว่าหรือไม่ว่าออกมาว่า นายทักษิณ ตอบกว่า ฮุนเซนเขาน่าจะรู้ ว่ามีเรามีรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีต่างประเทศอยู่ ต้องรู้ว่าอย่าโทรตอนนี้ เหมือนแบบรอให้นายกอิ๊งค์อยู่คนเดียว แล้วก็โทรเข้ามือถือส่วนตัวของอิ๊งค์

 

 

ความขัดแย้งจากการเคลื่อนกำลังและการปิดด่าน

นายทักษิณ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งว่า จำวันที่ไม่ได้ วันที่เขาถอนกำลัง ผมดูเนชั่นอยู่ บอกว่ากัมพูชามีการเคลื่อนกำลัง 12,000 คน ไปที่ชายแดน "ผมโกรธมาก ผมโทรไปฮวด เฮ้ย บอกเจ้านายด้วย ไม่อยากพูดเอง พูดเองเดี๋ยวเกิดคุมอารมณ์ไม่อยู่ ไปบอกเลยนะว่าตกลงลูกเราเนี่ยเป็นผู้นำ 2 ประเทศเราจะทำสงครามกันใช่มั้ย ผมบอกให้ฮวดบอกว่านี่เป็นคำพูดผมให้ไปบอกเลย ไม่โทรตรง เพราะถ้าโทรตรงก็คุม อารมณ์ไม่อยู่กลัวมันแรงไป"

อดีตนายกฯ อธิบายเหตุการณ์ต่อมาว่า ตนบอกว่าก็ต้องถอนกำลัง เขาบอกว่าเขาจะอนุญาตให้ทหารที่ชายแดนพูดคุยกับทางฝั่งไทย แล้วก็จะนำไปสู่การประชุมเจบีซีแล้วหลังจากนั้นก็มีซีบีซี เขาก็จะถอนทหารออกมาจากการกดดัน แต่บังเอิญว่าทหารเขามีโปรแกรมของเขาไว้ ต่อไปขั้นตอนต่อไปคือจะปิดด่าน พอเค้าถอนทหารวันอาทิตย์ วันจันทร์ออโตเมติกก็ปิดด่าน เขาก็เลยโกรธถามว่าเขาถอนทหารและเราปิดด่าน ไม่รักษาสัญญา

 

ความโกรธจาก "ไม่ Professional" และการบันทึกเสียง

นายทักษิณ เผยสาเหตุความโกรธของฮุนเซนอีกเรื่องว่า แล้วอิ๊งค์เขาโพสต์คำว่า วิธีทำอย่างนี้มันไม่ professional ก่อนที่จะปล่อยเทป ก็โกรธ 2 อย่าง โกรธเรื่องคำว่า ไม่ professional และโกรธเรื่องปิดด่าน

 

 

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับสมเด็จฮุน เซน ตอนนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า "ไม่เป็นไร ในเมื่อความสัมพันธ์มันจบ ก็จบไป จบเลย แต่ผมก็ยังสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย แต่ถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น 

 

"เขาก็ทำลายเราและทำลายตัวเองด้วย เพราะว่าความน่าเชื่อถือไม่มีแล้ว เดี๋ยววันนี้ไม่มีใครคบแล้ว 

 

 

เมื่อถูกถามเรื่องการติดต่อหลังเหตุการณ์ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่รู้จะคุยทำไม ไม่คุยเลย ผมส่งข้อความไปอันเดียว บอกว่า เห้ย สิ่งที่ยูทำอย่างเงี้ยมันเสียหายทั้งยูทั้งไอนะ เราส่งไปแค่นี้แล้วเขาก็ไม่ตอบอีกเลย"

 

ความเชื่อมโยงกับ Call Center และคดีฟอกเงิน

นายทักษิณ  กล่าวถึงปัญหา Call Center ว่า ตอนช่วยหาเสียงนายกอบจ. เคยบอกว่า "ไอ้ตึก 25 ชั้นนี่แหละเป็นที่ซ่องสุม call center" มีการรับจ้างฟอกเงิน และบริษัท “Huione Group” ก็เป็นเป้าหมายที่อเมริกากำหนดแบล็กลิสต์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็คนจีน รับฟอกเงินทุกอย่างแล้วก็มี "ฮุน โต" หลานชายเขาเป็นผู้ช่วย

 

ประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน

นายทักษิณ ประเมินสถานการณ์ปัจจุบันว่า ขอให้จำไว้ว่า ณ วันนี้นี้เรากับกัมพูชาไม่อยู่ในสถานะประกาศสงครามกันเพราะเป็นเรื่องตามกฎหมาย มันเป็นแค่ความขัดแย้งชายแดนปัญหายังไม่ลุกลามบานปลาย ซึ่งภัยคุกคามเรายังไม่ได้เป็นประกาศสงคราม

 

 

เมื่อถูกถามเรื่องทางออก นายทักษิณ กล่าวว่า ก็มันมีเจบีซีแล้วก็อาร์บีซี จีบีซี แต่ก็ไม่รับ ไม่รับก็ช่วยไม่ได้ ส่วนมุมมองถึงอนาคตยืนยันว่าไม่ต้องห่วง ไม่มีสงครามแน่นอน ไม่มี ไม่มีความขัดแย้งถึงขนาดรบราฆ่าฟันกันแน่นอน แม้ว่าชายแดนจะยังตรึงกำลังกัน ตอนนี้ก็เหมือนดำน้ำแข่งกัน แล้วใครจะอึดกว่ากัน