ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอให้ที่ประชุมสภาฯลงมติในวาระที่รัฐบาลขอถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ออกจากการพิจารณาของสภาฯ
โดยประธานสภาฯแจ้งสมาชิกให้ลงคะแนนเห็นด้วยหากยินยอมให้ถอนตามที่รัฐบาลเสนอ และลงคะแนนไม่เห็นด้วยหากไม่ให้ถอน ร่างพ.ร.บ.
จากนั้นมีการนับคะแนนจากจำนวนผู้ลงมติ 318 เสียง ดังนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการลงมติ ประธานสภาฯเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายแสดงความเห็นนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่เป็น สส.จากพรรคประชาชน กับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น โดยมีสส.พรรคเพื่อไทย ประท้วงบางช่วงเวลา ทว่าการอภิปรายตามรายชื่อที่ส่งให้ประธานสภาฯเป็น สส.จากพรรคภูมิใจไทย 7 คน
แต่เมื่อผ่านการอภิปรายไป 4 คนจากฝั่งสส.พรรคภูมิใจไทย เหลืออีก 3 คน ปรากฏว่านายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้เสนอญัตติต่อประธานสภาฯ ขอให้ "ปิดการอภิปราย" โดยมีเสียงรับรองญัตติครบถูกต้อง จนทำให้ฝ่ายค้านแสดงความไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ต่อมาประธานฯขอให้สมาชิกโหวตในญัตติที่ขอให้มีการปิดอภิปราย และให้สมาชิกลงคะแนนเสียง ปรากฏว่า มีผู้ลงมติ 259 เสียง เห็นด้วยให้ปิดอภิปราย 251 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนเสียง 4
จากนั้นประธานสภาฯ จึงเรียก สส.เข้าห้องประชุมเพื่อลงคะแนนโหวตในวาระถอนร่าง พ.ร.บ.ฯออกจากสภาตามที่รัฐบาลเสนอ จนสุดท้ายเสียงโหวตออกมาตามมติดังกล่าว และประชุมต่อในวาระต่อไป
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงสาเหตุถึงการเสนอถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ว่า การตัดสินใจในการถอนร่างกฎหมายนี้เป็นการพิจารณาจากผลประโยชน์ของประเทศและสังคม ซึ่งรัฐบาลมองว่าในขณะนี้ยังมีข้อบกพร่องและความไม่พร้อมในการดำเนินการกับร่างกฎหมายดังกล่าว
"แม้จะได้รับข้อเสนอจากพรรคฝ่ายค้านที่เห็นต่างในการถอนร่างกฎหมาย แต่รัฐบาลยืนยันว่าการถอนร่างในครั้งนี้จะช่วยลดความขัดแย้งในสังคมและเปิดโอกาสให้คณะรัฐมนตรีใหม่ได้กลับมาพิจารณากฎหมายนี้อีกครั้งในอนาคต หากร่างกฎหมายนี้ถูกคว่ำในสภา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะออกจากสารบบ แต่จะสามารถยื่นร่างกฎหมายใหม่ในสมัยประชุมถัดไปได้ ซึ่งเป็นกระบวนการตามหลักประชาธิปไตยและตามอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรในการตัดสินใจ" นายจุลพันธ์ กล่าว
รมช.คลัง ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมที่จะฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายและจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้การพิจารณาร่างกฎหมายเป็นไปอย่างรอบคอบและไม่ก่อให้เกิดปัญหาหรือความขัดแย้งในสังคม โดยพร้อมที่จะดำเนินการต่อไปตามคำตัดสินของสภาผู้แทนราษฎร
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.พรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้อภิปรายถึงการถอนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ว่า คาดหวังให้ตัวแทนจากคณะรัฐมนตรีลุกขึ้นมาให้เหตุผลที่แท้จริงในการสนับสนุนญัตติการถอนร่างกฎหมายนี้ แต่กลับไม่เห็นการชี้แจงที่ชัดเจนจากรัฐบาล อย่างไรก็ตามได้ติดตามการอภิปรายและการโหวตในสภา และพบว่าเสียงจากฝั่งรัฐบาลที่อยู่ในห้องประชุมมีแค่ 251 เสียง ซึ่งหากหักลบเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลที่แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์แล้ว จะเห็นได้ว่าประชาชนทั่วประเทศสามารถสรุปได้ว่า รัฐบาลกำลังถอนร่างกฎหมายนี้เพราะรู้ว่า หากเข้าสู่การโหวตในวาระที่หนึ่ง ก็จะถูกโหวตคว่ำในสภาแน่นอน
ผู้นำฝ่ายค้านย้ำว่า การที่รัฐบาลถอนร่างกฎหมายนี้ไม่ใช่การกระทำที่มีความจริงใจ และแสดงให้เห็นถึงการขาดความจริงใจจากรัฐบาล รัฐบาลไม่สามารถทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้รับความไว้วางใจจากพรรคฝ่ายค้าน และไม่สามารถร่วมสังฆกรรมในการถอนร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ได้
"การถอนร่างกฎหมายในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่จริงใจ และรัฐบาลควรรับฟังเสียงจากประชาชนมากขึ้น เพราะการตัดสินใจในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต" ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ได้อภิปรายในประเด็นการขอถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือกฎหมายคาสิโนที่รัฐบาลเสนอ โดยนายพริษฐ์กล่าวว่า พรรคประชาชนไม่เห็นด้วยกับแนวทางการดำเนินนโยบายและเนื้อหาสาระของร่างกฎหมายฉบับนี้
นายพริษฐ์เน้นย้ำว่า แม้รัฐบาลจะอ้างถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการเปิดคาสิโน แต่ยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการคาดการณ์จำนวนผู้เล่นไทยในคาสิโนที่รัฐบาลพูดถึงก็ยังไม่มีความชัดเจน โดยรายงานที่รัฐบาลอ้างถึงนั้นมีข้อมูลที่ขัดแย้งกัน ทั้งในเรื่องจำนวนคนไทยที่จะเข้าไปเล่นและผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้น
นายพริษฐ์ยังกล่าวว่าเหตุผลที่รัฐบาลขอถอนร่างกฎหมายไม่ได้มาจากความจริงใจ แต่เป็นการซื้อเวลาเพื่อรวบรวมเสียงในสภาให้มากขึ้น โดยไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะไม่กลับมานำร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาในอนาคตอีกหรือไม่ พร้อมกับยืนยันว่า พรรคประชาชนจะยังคงคัดค้านร่างกฎหมายนี้และเรียกร้องให้รัฐบาลพิสูจน์ความจริงใจในการถอนร่างกฎหมายด้วยการไม่เสนอกฎหมายที่มีปัญหานี้ในสภาชุดนี้อีก
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ร่างกฎหมายที่รัฐบาลเสนอไม่ชัดเจนและความไม่จริงใจของรัฐบาลในการถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ พร้อมยืนยันว่าเหตุผลที่รัฐบาลอ้างในการถอนร่างกฎหมายนั้นไม่เป็นเหตุผลที่แท้จริง เขามองว่ารัฐบาลไม่ได้เตรียมพร้อมทั้งในด้านกฎหมายและการควบคุมธุรกิจกาสิโน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของการฟอกเงินและการทุจริตที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในประเทศไทย
เขายังกล่าวถึงความไม่สมบูรณ์ของการผลักดันกฎหมายนี้ และสงสัยว่ารัฐบาลต้องการถอนเพื่อประคองสถานการณ์หรือแค่พยายามซื้อเวลาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ภายในรัฐบาล โดยเรียกร้องให้รัฐบาลยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นการถอนร่างนี้จะไม่มีการนำกลับมาเสนอใหม่ในสภาชุดนี้ และต้องการให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจผ่านการเสนอเป็นนโยบายในการการเลือกตั้งว่าแนวทางการสร้างสถานบันเทิงครบวงจรนี้เหมาะสมหรือไม่
ด้าน นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า การที่รัฐบาลเสนอถอนร่างกฎหมายไม่ใช่การตัดสินใจที่มาจากเหตุผลที่แท้จริง แต่เป็นการยอมรับถึงความไร้ประสิทธิภาพและศักยภาพของรัฐบาลชุดนี้ในการนำเสนอกฎหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง
นายกัณวีร์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่เข้าใจภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค และการสนับสนุนกฎหมายกาสิโนอาจทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฮับสำหรับธุรกิจจีนสีเทาและจีนสีดำ ซึ่งมีผลกระทบทั้งในประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาร์และกัมพูชา
ยืนยันว่า รัฐบาลไม่สามารถพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการมีกาสิโนในประเทศไทย และต้องรับผิดชอบต่อการนำเสนอร่างกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาใหม่และถอนร่างกฎหมายนี้อย่างแท้จริง หากต้องการให้ประชาชนเห็นด้วย
นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับการถอนร่างกฎหมายนี้ เพราะการถอนร่างกฎหมายไม่ใช่การยุติปัญหาที่แท้จริง และการที่ร่างกฎหมายยังคงอยู่ในสภาจะสร้างปัญหาสังคมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทำให้พี่น้องประชาชนมีความกังวลและอาจตัดสินใจแสดงออกทางการเมือง การถอนในครั้งนี้ไม่ใช่การเลิกดำเนินการ แต่เป็นเพียงการเลื่อนออกไปซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาที่ยังค้างคาอยู่ได้
นายไชยชนก กล่าวว่า ภัยทางธรรมชาติที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ เช่น น้ำท่วมในภูเก็ตและพัทยา แต่ยังยืนยันว่า การไม่ยุติเรื่องนี้จะทำให้ประเทศไม่สามารถแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ และไม่สามารถให้ความสำคัญกับปัญหาที่สำคัญกว่านี้ได้ พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่าเสียงของประชาชนที่คัดค้านเรื่องนี้กำลังดังขึ้นเรื่อย ๆ และการยุติเรื่องนี้ในวันนี้จะทำให้ปัญหานี้ไม่กลับมารบกวนสังคมและการดำเนินการอื่น ๆ ของประเทศ