KEY
POINTS
การตรวจสอบฮั้วเลือกตั้งสมาชิวุฒิสภา หรือ “ฮั้ว สว.” กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทย โดยเฉพาะเมื่อประชาชนเริ่มตั้งคำถามว่า ทำไมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใช้เวลาในการตรวจสอบนาน ในขณะที่ผู้ที่ถูกกล่าวหายังคงดำรงตำแหน่งและมีอำนาจ
ความล่าช้านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเลือกตั้ง แต่ยังทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสและประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมทางการเมือง
ประเด็นสำคัญที่ถูกตั้งคำถามคือ กรอบเวลาในการตรวจสอบฮั้วเลือกตั้ง สว. ที่กำหนดไว้เป็นจำนวนกี่วัน และหาก กกต.ใช้เวลาเกิน 1 ปีแล้ว จะสามารถดำเนินการตรวจสอบต่อไปได้หรือไม่ พร้อมทั้งความชัดเจนของขั้นตอนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการไต่สวนเสร็จสิ้น ซึ่งเป็นข้อสงสัยที่ประชาชนและหน่วยงานรัฐต้องการคำตอบ
โดยคณะกรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ได้ตั้งคำถาม 2 คำถาม ถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
และ นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ กกต. ได้หารือนักกฎหมายของสำนักงาน กกต. เพื่อตอบประเด็น กมธ.องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฯ กระทั่ง นาย จ. ผู้เชี่ยวชาญกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ด้านกฎหมาย และ นาย ฐ. ผู้เชี่ยวชาญประจำกรรมการการเลือกตั้ง ได้ตอบกลับ
ประเด็นแรก กมธ.องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฯ ถามว่าในการรับรองสถานะของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือ ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งก่อนแล้วมาตรวจสอบภายหลังนั้น สนง.กกต. มีกรอบตรวจสอบอย่างไร
ประเด็นที่ 2 ในปัญหาข้อที่ 1 คือ การให้เวลาตรวจสอบที่กว้างก็อาจหมายถึงการปล่อยให้ผู้ถูกร้องได้ใช้อำนาจนานขึ้น
ในชั้นสำนวนการไต่สวนต้องให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศผลการเลือกตั้ง กล่าวคือ ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2568
แต่แม้จะครบกำหนดเวลาตามระเบียบ กกต.แล้ว ก็สามารถขยายเวลาออกไปได้ ถ้าเป็นเรื่องความเป็นอิสระในการอำนวยความยุติธรรม หรือไม่กระทบการดำเนินงานของบุคคล (คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26) ไม่ได้ ดังนั้น กรอบระยะเวลาตามข้อ 92 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 จะใช้บังคับกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 มิได้
สำหรับปัญหาข้อที่ 2 กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมของ สำนักงาน กกต. กำหนดกรอบให้ไว้ดังนี้
1. ในชั้นวิเคราะห์สำนวนของเลขาธิการ กกต. ภายใน 60 วัน
2. ในชั้นคณะอนุกรรมการวินิจฉัยพิจารณา ภายใน 90 วัน
3. ในชั้น กกต. พิจารณาและชี้ขาด ไม่เกิน 90 วัน
4. การจัดทำคำวินิจฉัย กกต. และแจ้งคำวินิจฉัยให้ผู้ร้องและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ภายใน 60 วัน
กระบวนการหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ใช้เวลาทั้งหมด 300 วัน หรือประมาณ 10 เดือน หากรวมกับเวลาไต่สวน 1 ปี (365 วัน) เวลารวมทั้งสิ้นจะเป็น 665 วัน หรือประมาณ 1.8 ปี ทั้งนี้ยังไม่รวมกรณีที่อาจมีการขยายเวลาตามข้อ 93 ของระเบียบ กกต. ที่อนุญาตให้ขยายเวลาได้ หากเป็นเรื่องความเป็นอิสระในการอำนวยความยุติธรรม