ไขรหัสคดี “ฮั้ว สว.” ทำไม กกต. ยืดเยื้อ โครงสร้าง-ก.ม.เปิดช่องยื้อ

25 มิ.ย. 2568 | 09:39 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2568 | 06:09 น.

คดี “ฮั้ว สว.” กกต.ถูกตั้งคำถามหนักเรื่องความล่าช้า-โปร่งใส หลังใช้เวลากว่า 1 ปี โดยยังไร้ข้อยุติ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ กกต.ชี้กฎหมายเปิดช่องให้ขยายเวลาได้โดยไม่จำกัด

KEY

POINTS

 

  • กระบวนการตรวจสอบ “ฮั้วเลือกตั้ง ส.ว.” โดย กกต. ถูกตั้งคำถามหนักเรื่องความล่าช้าและความโปร่งใส หลังใช้เวลานานกว่า 1 ปี โดยยังไร้ข้อยุติ 
  • ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ กกต. ชี้ชัดว่า กฎหมายเปิดช่องให้ขยายเวลาได้โดยไม่จำกัด 
  • อันก่อความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือขององค์กร กระทบต่อการใช้อำนาจของผู้ที่ถูกกล่าวหาที่ยังดำรงตำแหน่งอย่างไม่ถูกตรวจสอบ ทั้งสะท้อนปัญหาใหญ่เรื่องการสื่อสาร
     

การตรวจสอบฮั้วเลือกตั้งสมาชิวุฒิสภา หรือ “ฮั้ว สว.” กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทย โดยเฉพาะเมื่อประชาชนเริ่มตั้งคำถามว่า ทำไมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใช้เวลาในการตรวจสอบนาน ในขณะที่ผู้ที่ถูกกล่าวหายังคงดำรงตำแหน่งและมีอำนาจ 

ความล่าช้านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเลือกตั้ง แต่ยังทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสและประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมทางการเมือง 

ประเด็นสำคัญที่ถูกตั้งคำถามคือ กรอบเวลาในการตรวจสอบฮั้วเลือกตั้ง สว. ที่กำหนดไว้เป็นจำนวนกี่วัน และหาก กกต.ใช้เวลาเกิน 1 ปีแล้ว จะสามารถดำเนินการตรวจสอบต่อไปได้หรือไม่ พร้อมทั้งความชัดเจนของขั้นตอนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการไต่สวนเสร็จสิ้น ซึ่งเป็นข้อสงสัยที่ประชาชนและหน่วยงานรัฐต้องการคำตอบ

โดยคณะกรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ได้ตั้งคำถาม 2 คำถาม  ถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 

 

และ นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ กกต. ได้หารือนักกฎหมายของสำนักงาน กกต. เพื่อตอบประเด็น กมธ.องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฯ กระทั่ง นาย จ. ผู้เชี่ยวชาญกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ด้านกฎหมาย และ นาย ฐ. ผู้เชี่ยวชาญประจำกรรมการการเลือกตั้ง ได้ตอบกลับ  

ประเด็นแรก กมธ.องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฯ ถามว่าในการรับรองสถานะของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือ ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งก่อนแล้วมาตรวจสอบภายหลังนั้น สนง.กกต. มีกรอบตรวจสอบอย่างไร 

ประเด็นที่ 2 ในปัญหาข้อที่ 1 คือ การให้เวลาตรวจสอบที่กว้างก็อาจหมายถึงการปล่อยให้ผู้ถูกร้องได้ใช้อำนาจนานขึ้น 

ในชั้นสำนวนการไต่สวนต้องให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศผลการเลือกตั้ง กล่าวคือ ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 

แต่แม้จะครบกำหนดเวลาตามระเบียบ กกต.แล้ว ก็สามารถขยายเวลาออกไปได้ ถ้าเป็นเรื่องความเป็นอิสระในการอำนวยความยุติธรรม หรือไม่กระทบการดำเนินงานของบุคคล (คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26) ไม่ได้ ดังนั้น กรอบระยะเวลาตามข้อ 92 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 จะใช้บังคับกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 มิได้ 

                              ไขรหัสคดี “ฮั้ว สว.” ทำไม กกต. ยืดเยื้อ โครงสร้าง-ก.ม.เปิดช่องยื้อ

 

สำหรับปัญหาข้อที่ 2 กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมของ สำนักงาน กกต. กำหนดกรอบให้ไว้ดังนี้   

1. ในชั้นวิเคราะห์สำนวนของเลขาธิการ กกต. ภายใน 60 วัน 

2. ในชั้นคณะอนุกรรมการวินิจฉัยพิจารณา ภายใน 90 วัน

3. ในชั้น กกต. พิจารณาและชี้ขาด ไม่เกิน 90 วัน 

4. การจัดทำคำวินิจฉัย กกต. และแจ้งคำวินิจฉัยให้ผู้ร้องและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ภายใน 60 วัน  

กระบวนการหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ใช้เวลาทั้งหมด 300 วัน หรือประมาณ 10 เดือน หากรวมกับเวลาไต่สวน 1 ปี (365 วัน) เวลารวมทั้งสิ้นจะเป็น 665 วัน หรือประมาณ 1.8 ปี ทั้งนี้ยังไม่รวมกรณีที่อาจมีการขยายเวลาตามข้อ 93 ของระเบียบ กกต. ที่อนุญาตให้ขยายเวลาได้ หากเป็นเรื่องความเป็นอิสระในการอำนวยความยุติธรรม