พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 ได้เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วกันเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ฮั้ว สว.) ซึ่งถูกตั้งข้อหาในลักษณะของความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา
พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ล่าสุดดีเอสไอได้ออกหมายเรียกพยานล็อตแรก จำนวน 7 ราย ให้เข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยพยานกลุ่มดังกล่าวมีบทบาททั้งในฐานะ “ผู้โอนเงิน” และ “ผู้รับเงิน” ซึ่งเกี่ยวพันกับขบวนการจัดตั้งโหวตเตอร์ เพื่อเลือก สว. ในระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ โดยเฉพาะในช่วงใกล้วันเลือกตั้งที่พบความเคลื่อนไหวของเงินอย่างมีนัยสำคัญ
เบื้องต้นจากการวิเคราะห์รายการเดินบัญชีในพื้นที่ 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และ ภาคใต้ พนักงานสอบสวนพบว่า มีเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคล ซึ่งมีความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองบางกลุ่ม และมีการโอนเงินไปยังกลุ่มที่ทำหน้าที่จัดตั้งผู้มีสิทธิ์เลือก สว. หรือ "โหวตเตอร์" ในแต่ละพื้นที่
“แม้จำนวนเงินที่โอนบางรายการจะอยู่ในหลักพันบาท แต่การเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้การเลือกตั้ง และเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมจัดตั้งเครือข่าย สว. ถือเป็นเบาะแสสำคัญที่ต้องสืบสวนต่อไป” พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าว
ทั้งนี้ อธิบดีดีเอสไอระบุว่า พยานทั้ง 7 รายในล็อตแรกเป็นเพียงกลุ่มแรกที่ได้รับหมายเรียกเท่านั้น ยังมีอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และการเชื่อมโยงเครือข่าย ก่อนจะมีการทยอยออกหมายเรียกเพิ่มเติมในลักษณะเดียวกัน
“เรากำลังรวบรวมหลักฐานจากบัญชีเดินบัญชี และข้อมูลการโอนเงินในหลายจังหวัด และเมื่อเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด จะสามารถชี้ได้ชัดว่าเครือข่ายนี้มีโครงสร้างแบบใด และมีใครเกี่ยวข้องในระดับใดบ้าง ซึ่งในเบื้องต้นเราเห็นภาพการเชื่อมโยงถึงพรรคการเมืองและนักเลือกตั้งท้องถิ่นในหลายพื้นที่” อธิบดีดีเอสไอระบุ
ดีเอสไอยืนยันจะดำเนินคดีนี้อย่างรอบคอบและโปร่งใส โดยเน้นการพิสูจน์ตามพยานหลักฐานเพื่อให้ผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการฮั้ว สว. และการฟอกเงินต้องรับโทษตามกฎหมาย พร้อมเตือนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่าอยู่ในข่ายต้องถูกเรียกสอบปากคำเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้