วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าการสอบสวนคดีพิเศษที่ 58/2568 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีพบการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (กฎหมายฮั้วประมูล) ในโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่
หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารกว่า 31,224 แผ่น แบ่งเป็น 73 แฟ้ม บรรจุใน 13 กล่อง คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งมอบสำนวนดังกล่าวให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับมอบด้วยตนเอง
พบผู้เกี่ยวข้องกว่า 76 ราย
จากการสอบสวนพบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวม 76 ราย แบ่งเป็นข้าราชการในองค์กรอิสระกว่า 70 ราย ซึ่งรวมถึงผู้บริหารระดับสูงของ สตง. 4 ราย ได้แก่
พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
พ.ต.อ.วัลลิพผล รังคสิริ เลขานุการ
นายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่า สตง.
นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. คนปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังมีผู้บริหารกิจการร่วมค้า PKW จำนวน 6 ราย ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็นและร่วมกระทำความผิดในขั้นตอนการยื่นเสนอราคา อาทิ การปลอมลายมือชื่อผู้เชี่ยวชาญ การนำชื่อบุคคลที่ไม่เข้าเงื่อนไขตามทีโออาร์มาแสดงคุณสมบัติ เพื่อให้ผ่านการคัดเลือกอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เข้าข่ายความผิดกฎหมายหลายมาตรา
พฤติการณ์ที่พบเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูลฯ มาตรา 4, มาตรา 7 รวมถึงความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 (ปลอมเอกสาร), มาตรา 268 (ใช้เอกสารปลอม) ประกอบมาตรา 83 และมาตราอื่น ๆ โดยเข้าข่ายการสมคบกันเสนอราคาหลอกลวงหน่วยงานรัฐ และหลีกเลี่ยงการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
คดีนี้ยังมีบุคคลภายนอกอีก 2 ราย (ไม่เปิดเผยชื่อ) เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มเติมในข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปมที่ดีเอสไอได้รวบรวมในสำนวนเพื่อให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป
DSI ลั่นไม่หยุดแค่ 76 ราย
พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ดีเอสไอได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหน่วยสอบสวน โดยการสรุปผลการสอบสวนและส่งมอบให้กับ ป.ป.ช. ซึ่งมีอำนาจไต่สวนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงตามกฎหมาย โดยเชื่อมั่นว่า ป.ป.ช. จะสามารถขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องในทุกมิติอย่างรอบด้านและโปร่งใส
"เรามั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดที่ส่งไปในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการไต่สวนของ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดกับทุกผู้ที่เกี่ยวข้องตามพยานหลักฐาน ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กรอิสระ" อธิบดีดีเอสไอ กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีเวลา 30 วันนับจากวันนี้ ในการตรวจสอบสำนวนเบื้องต้น ก่อนเข้าสู่กระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการต่อไป