ยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย อาคาร สตง.แล้ว หลังเปิดพื้นที่ครบพบแต่ชิ้นส่วน

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า จากการดำเนินการต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ดำเนินการเปิดช่องลิฟต์ทั้ง 6 ช่อง ปรากฏว่าไม่พบร่างผู้ประสบภัย ดังนั้นตั้งแต่เมื่อวานจึงถือได้ว่าได้เปิดพื้นที่ซากอาคารตึก สตง.ที่ถล่มได้ครบถ้วนแล้ว

โดยเช้านี้ได้มีการตั้งแถวเจ้าหน้าที่ประมาณ 57 นาย และสุนัข K9 จำนวน 5 ตัว เป็นหน้ากระดาน เพื่อค้นหาเศษชิ้นส่วนอวัยวะก่อนจะขนซากปูนขึ้นรถบรรทุก ปรากฏว่าพบชิ้นส่วนของกะโหลก 1 ชิ้น ความกว้างประมาณ 1 นิ้ว  และชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มอีก 2 ชิ้น และถือว่าการเปิดพื้นที่ค้นหาร่างผู้ประสบภัยจากซากอาคาร สตง. เป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว ระหว่างนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 -3 วันเพื่อขนซากเหล็ก ซากปูน จากพื้นที่ สตง. นำไปพักไว้ที่พื้นที่ของการรถไฟต่อไป

แต่ทั้งนี้กระบวนการต่าง ๆ ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น การตรวจสอบชิ้นส่วนอวัยวะของผู้ประสบภัยที่อาจยังคงค้างอยู่ในซากปูนที่เรารื้อออกมาแล้วนำมากองรวมไว้เป็นกองปูนบริเวณพื้นที่ของการรถไฟ โดยกองปูนที่มีความสูงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 9.94 เมตร ซึ่งอาจจะเกิดการสไลด์ของปูนถล่มและเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ได้  จึงมีการดำเนินการลดทอนความสูงของกองปูดังกล่าวลงให้เหลือประมาณ 6 เมตร ซึ่งกระบวนการขั้นตอนนี้ยังสามารถนำไปสู่การค้นหาชิ้นส่วนอวัยวะและร่างกายของผู้ประสบเหตุที่อาจตกค้างหลงเหลืออยู่ในกองปูนได้อีกด้วย

ในส่วนของผู้สูญหายที่ยังคงมีตัวเลขคงค้างอยู่ที่ 7 รายจะเป็นกระบวนการของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจและนิติเวช ที่จะต้องพิสูจน์และใช้เวลาในการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอของอวัยวะรวมถึงกระดูกชิ้นใหญ่ของชิ้นส่วนอวัยวะผู้ประสบภัย เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้เสียชีวิตรายใดได้ เนื่องจากในพื้นที่อาคาร สตง. จะไม่พบร่างของผู้เสียชีวิตแล้ว แต่อาจจะเป็นชิ้นส่วนอวัยวะชิ้นเล็กๆ ซึ่งหากพบก็จะเร่งนำ ให้นิติเวชเผื่อรวบรวมต่อไป และเป็นเรื่องของพนักงานตำรวจสืบสวนสอบสวนร่วมกับนิติเวชในการยืนยันผู้สูญหายอีก 7 ราย

สำหรับการคืนพื้นที่ให้กับสตง.นั้น ยังเป็นไปตามแผนเดิมคือวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ตามหนังสือที่ กทม. ได้แจ้งให้ สตง.ได้รับทราบ ซึ่งเมื่อ กทม. คืนพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว พื้นที่ดังกล่าวก็จะตกเป็นของเจ้าของเดิม ก็คือ สตง. ตามกฎหมาย และกระบวนการต่อไปพนักงานสืบสวนสอบสวนจะทำการอายัดพื้นที่ของสตง.และหลักฐานกองปูนและเหล็กบริเวณพื้นที่ของของการรถไฟต่อไป โดยไม่มีช่องว่างในการดำเนินการต่างๆ ตามกระบวนการสืบสวนสอบสวน