"ณฐพร"ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ฟัน “กกต.-ภูมิใจไทย-สว.” ปมฮั้ว สว.

04 มิ.ย. 2568 | 09:43 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2568 | 09:48 น.

“ณฐพร โตประยูร” ร้อง ศาลรธน. เอาผิด “กกต.-ภูมิใจไทย-สว.” ปม “ฮั้ว สว.” เข้าข่ายใช้สิทธิ์-เสรีภาพล้มล้างการปกครองฯ หรือไม่ ขอสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที อ้างหลักฐานแน่น

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กรณีการกระทำของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลขาธิการ กกต. พรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรค รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และบุคคลอื่น ๆ รวมกว่า 200 คน ซึ่งถูกกล่าวหาว่า “ร่วมกันใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

นายณฐพร ระบุว่า การยื่นคำร้องครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ถูกร้องยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมสั่ง “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ทันที โดยเฉพาะในส่วนของ กกต. สว. และรัฐมนตรี รวมถึงสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่มีรายชื่อปรากฏในสำนวนการสอบสวนของสำนักงาน กกต.

 “ผมมั่นใจว่านี่คือ คดีล้มล้างการปกครองฯ ที่มีพยานหลักฐานแน่นหนาที่สุด ทั้งจาก DSI และข้อมูลด้านการเงินแบบเจาะลึกจาก AI รวมถึงการประชุมพบปะหารือกันอย่างมีแบบแผน ซึ่งโยงไปถึงนักการเมืองระดับแกนนำพรรค” นายณฐพร กล่าว

หลักฐานโยงขบวนการฮั้ว สว.

นายณฐพร กล่าวว่า สำนวนคำร้องที่ยื่นในวันนี้ มีมากกว่า 70 หน้า พร้อมเอกสารประกอบกว่า 80 รายการ ซึ่งมาจากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทั้งนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า หาก DSI ไม่ดำเนินการสอบสวน กกต.ก็อาจ “นิ่งเฉย” ไม่สืบสวนความผิดในเรื่องนี้เช่นกัน
“การกระทำของ กกต. กับ พรรคภูมิใจไทย มีความเกี่ยวพันกันชัดเจน ซึ่งหากปล่อยให้ สว.กลุ่มนี้ยังปฏิบัติหน้าที่ และเห็นชอบบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งในองค์กรอิสระต่าง ๆ ย่อมเป็นอันตรายต่อหลักนิติธรรมและความเป็นธรรมทางการเมือง” นายณฐพร ระบุ 

หวังศาลรธน.รับคำร้องเร็ว

นายณฐพร เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการตามช่องทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 และพอพ้นกำหนด 15 วัน ตามขั้นตอน จึงสามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง โดยคาดหวังว่าศาลจะมีคำสั่งรับคำร้องภายใน 2 สัปดาห์ เพราะหลักฐานปรากฏชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลักฐานสามารถเชื่อมโยงไปถึงแกนนำพรรคภูมิไทยได้หรือไม่ นายณฐพร ตอบชัดว่า “มีแน่นอน” ทั้งจากเส้นทางการเงิน การประชุมหารือ และพฤติกรรมของกลุ่ม สว. ที่เชื่อมโยงได้โดยตรงกับกลุ่มอำนาจทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย

พฤติการณ์ทำเป็นขบวนการ 

ในคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ มีการระบุชัดเจนว่า ขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่เป็นระบบ ตั้งแต่การวางแผนร่วมกันระหว่างพรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรค ไปจนถึง กกต. ที่ถูกกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มผู้ถูกร้อง สามารถจัดทำแผนและดำเนินการได้มาซึ่ง สว. จำนวน 138 คน และผู้สมัครสำรองอีก 50 คน 

รูปแบบที่ใช้นั้นรวมถึงการ “คิดสูตร” จ้างบุคคลมาสมัครลงเลือกตั้ง สว. แบบอิสระ โดยมี “โพย” รายชื่อกำหนดล่วงหน้าให้ลงคะแนนเฉพาะผู้สมัครที่กลุ่มจัดวางไว้เท่านั้น โดยไม่พิจารณาคุณสมบัติหรือความสามารถของผู้สมัครที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 3, 5, 107 และ 108 อย่างร้ายแรง

สำนวนแน่นศาลไม่ต้องใช้เวลานาน

นายณฐพร ยังปิดท้ายด้วยความมั่นใจว่า สำนวนและพยานหลักฐานที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ “แน่นหนาที่สุด” เท่าที่เคยมีการยื่นในลักษณะล้มล้างการปกครอง และศาลไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการวินิจฉัย หากดูจากหลักฐานที่มีครบถ้วนแล้ว