“ปารีณา”ลุ้นศาลฎีกาชั้นอุทธรณ์อีกยก 30 พ.ค. ปม ป.ป.ช.ฟ้องยื่นทรัพย์สินเท็จ

26 พ.ค. 2567 | 08:57 น.

“ศาลฎีกานักการเมือง”นัดฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ คดี ป.ป.ช. ฟ้อง “ปารีณา ไกรคุปต์” จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ 30 พ.ค.นี้ หลังยกแรกศาลยกฟ้อง

ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” รายงานว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 2567 เวลา 11.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นัดฟังคำพิพากษา คดี อม.อธ. 10/2566 ชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ผู้ร้อง กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ผู้ถูกกล่าวหา ข้อหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ 

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2566 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ได้ยกฟ้องคดีนี้ 

คำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2565 ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน 2 รายการ

ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯมาตรา 114 วรรคสอง (1), 167 และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 81 ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ

ศาลไต่สวนพยานผู้ร้อง 2 นัด พยานผู้ถูกกล่าวหา 1 นัด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมติเสียงข้างมาก เห็นว่า สำหรับรายการเงินให้กู้ยืมรายนาย ป. นั้น ทางไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นาย ป. ยอมรับว่า ผู้ถูกกล่าวหาให้เงินสนับสนุนในการหาเสียงเลือกตั้งประกอบกับพฤติการณ์ที่ นาย ป. เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาโพธาราม และสั่งจ่ายเช็คมอบให้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นหลักประกัน เมื่อผู้ถูกกล่าวหาขอหลักประกันเพิ่ม นาย ป. ได้นำโฉนดที่ดินไปให้ ผู้ถูกกล่าวหายึดถือ และนาย ป. เคยบอกนาย ส. ว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง

และขอให้ นาย ส. ไปเป็นเพื่อนเพื่อไปทำสัญญากู้ยืมที่ผู้ถูกกล่าวหาให้การสนับสนุนนาย ป. ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง โดย นาย ส. ได้ยินผู้ถูกกล่าวหาพูดทวงเงินจากนาย ป. เชื่อว่านาย ป. ได้รับเงินช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งจากผู้ถูกกล่าวหาและไม่ได้เป็นการช่วยเหลือแบบให้เปล่า แม้ไม่ปรากฏพยานหลักฐานการส่งมอบเงิน

แต่ทางไต่สวน ไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า สัญญาเงินกู้ดังกล่าวเป็นเอกสารสิทธิปลอม และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงจากสำนวนการไต่สวนของผู้ร้องว่า มีการสมคบกันทำสัญญาเงินกู้ขึ้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกกล่าวหาจึงเข้าใจโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิตามสัญญาเงินกู้

จึงฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้องสำหรับรายการนี้

ส่วนรายการพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย และพระสมเด็จนางพญาพิษณุโลก พิมพ์อกนูนใหญ่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมติเสียงข้างมาก เห็นว่า การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของผู้ถูกกล่วหาในการดำรงตำแหน่ง ส.ส. ผู้ถูกกล่าวหา ได้แสดงรายการพระเครื่องทั้งสององค์โดยขอใช้เอกสารชุดเดิมทั้งหมด

ประกอบกับ นาย อ. อดีตสามีของผู้ถูกกล่าวหา ให้ถ้อยคำว่า นาย อ. เป็นเจ้าของพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย (กรุใหม่) และพระสมเด็จนางพญาพิษณุโลก พิมพ์อกนูนใหญ่ ซึ่งเป็นองค์เดียวกับที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของคู่สมรส การจัดทำบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี ในปี 2557 นาย อ. มอบให้ นายบุรินทร์ เลขานุการเป็นผู้รวบรวมเอกสารนำไปยื่นต่อผู้ร้อง

เนื่องจาก นาย อ. กำลังจะหย่ากับผู้ถูกกล่าวหา นาย อ. เคยให้ผู้ถูกกล่าวหายืมใส่พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย (กรุเก่า) และพระนางกำแพง หลังจากหย่ากันผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คืนให้ พระเครื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาครอบครองเป็นคนละองค์กับพระเครื่องสององค์ดังกล่าว 

และผู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคำว่า หลังจดทะเบียนหย่า ผู้ถูกกล่าวหาครอบครองพระเครื่อง 2 องค์เรื่อยมา เป็นเหตุให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจว่าตนเป็นเจ้าของพระเครื่องทั้ง 2 องค์ที่อยู่กับตนและเป็นองค์เดียวกับที่เคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เอกสารประกอบต่อผู้ร้อง

สอดคล้องกับที่ นาย พ. ผู้เชี่ยวชาญ ให้ถ้อยคำว่า คนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญและไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่อง ย่อมไม่อาจแยกแยะข้อแตกต่างของพระเครื่องทั้งสององค์ได้ เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจมาโดยตลอดว่า พระเครื่องทั้งสององค์ที่ได้รับมาจากนาย อ. ระหว่างสมรสและอยู่ในความครอบครองเรื่อยมา คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย (กรุใหม่)

และพระสมเด็จนางพญาพิษณุโลก พิมพ์อกนูนใหญ่ ที่ยื่นและอ้างไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าพระเครื่อง 2 องค์ ที่นำมาแสดงต่อผู้ร้องเป็นคนละองค์กับที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ

พฤติการณ์แห่งคดี จึงฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนา แสดงรายการพระเครื่องไม่ตรงกับที่มีอยู่จริง และระบุราคาสูงกว่าความเป็นจริง

กรณีจึงรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง พิพากษายกคำร้อง