โปรดเกล้าฯ แบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติใหม่ มี 30 กองบัญชาการ

วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๗ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งรับสนองพระบรมราชโองการ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นปีที่ ๙ ในรัชกาลปัจจุบัน

                      

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรแบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๑๑ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๗”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๔ ให้แบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

                     

ก. สํานักงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ แบ่งเป็นส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ

(๑) สํานักงานยุทธศาสตร์ตํารวจ

(๒) สํานักงานส่งกําลังบํารุง

(๓) สํานักงานกําลังพล

(๔) สํานักงานงบประมาณและการเงิน

(๕) สํานักงานกฎหมายและคดี

(๖) สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ

(๗) สํานักงานจเรตํารวจ

(๘) สํานักงานตรวจสอบภายใน

                      

ข. ให้จัดตั้งกองบัญชาการหรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ ดังต่อไปนี้

(๑) กองบัญชาการตํารวจนครบาล

(๒) - (๑๐) ตํารวจภูธรภาค 9 ๙

(๑๑) กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง

(๑๒) กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว

(๑๓) กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

(๑๔) กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด

(๑๕) กองบัญชาการตํารวจสันติบาล

(๑๖) สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง

(๑๗) กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน

(๑๘) สํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ

(๑๙) สํานักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

(๒๐) กองบัญชาการศึกษา

(๒๑) โรงเรียนนายร้อยตํารวจ

(๒๒) โรงพยาบาลตํารวจ

คลิกดูเพิ่มเติมจากราชกิจจานุเบกษา