“วัชระ” ยื่นมหาดไทยเพิกถอนใบอนุญาต ปืน 2 กระบอก จาก "เดวิด" ฝรั่งเตะหมอ

07 มี.ค. 2567 | 06:51 น.

"วัชระ เพชรทอง” ยื่นกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบเพิกถอนด่วน อนุญาตปืน 2 กระบอก จาก "นายอูร์ส บีส เฟร์ เดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ หรือ “ฝรั่งเตะหมอ” ที่จังหวัดภูเก็ต

วันที่ 7 มีนาคม 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือถึง นายสุทธิพงษ์  จุลเจริญ  ปลัดกระทรวงมหาดไทย จากกรณี นายอูร์ส บีส เฟร์ เดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ “ฝรั่งเตะหมอ” ที่จังหวัดภูเก็ต ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้รับอนุญาตให้ครอบครองอาวุธปืน จำนวน ๒ กระบอก ดังนี้

๑. อาวุธปืนพกสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ GLOCK ขนาด ๙ มม. เลขหมายประจำปืน BNDU586 เครื่องหมายทะเบียนปืน กท๖๓๐๓๙๕๖ ซื้อจาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปืนศิวะ ใบอนุญาตจากหน่วยงาน อำเภอถลาง เลขที่ใบอนุญาต ๒๕๖๓๐๐๐๐๐๒๐๑ แบบบุคคลธรรมดา ออกเมื่อ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ ผู้ลงนามอนุญาต นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอถลาง


 ๒. อาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวไรเฟิล ยี่ห้อ CZ ขนาด ๓๐๘ เลขหมายประจำปืน D360211 เครื่องหมายทะเบียนปืน กท๖๕๕๐๑๙๘ ซื้อจาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปืนนายพล ใบอนุญาตจากหน่วยงาน อำเภอถลาง เลขที่ใบอนุญาต ๒๕๖๕๐๐๐๐๐๐๓๔ แบบนิติบุคคล ออกเมื่อ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ผู้ลงนามอนุญาต นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอถลาง

จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการดังนี้ ๑. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายอำเภอผู้อนุญาตให้นายอูร์ส บีส เฟร์ เดวิด ครอบครองอาวุธปืนได้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบหรือไม่ หากไม่ถูกต้องขอให้เพิกถอนใบอนุญาตทันที 

๒. นายอูร์ส บีส เฟร์ เดวิดมีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมไทยจึงขอให้ประสานงานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทำเรื่องขออนุญาตศาลยุติธรรมตรวจค้นบ้านพักและปางช้าง ของนายอูร์ส บีส เฟร์ เดวิด เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนโดยเร็วที่สุด

๓. ขอทราบการอนุญาตให้ชาวต่างชาติครอบครองอาวุธปืนทั่วประทศ ว่ามีจำนวนทั้งหมดเท่าไร พื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้ออกใบอนุญาตให้ชาวต่างชาติ ครอบครองอาวุธปืนกี่กระบอก และอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ใด 

ในขณะที่คนไทยจำนวนนับสิบล้านคนยังไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่ายปกครองให้ครอบครองอาวุธปืน การออกใบอนุญาตให้ชาวต่างชาติไปแล้วเป็นนโยบายของกรมการปกครองหรือกระทรวงมหาดไทย จะเพิกถอนหรือไม่

๔. มีการออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนให้นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ”ตู้ห่าว” (กลุ่มจีนสีเทา) จำนวนกี่กระบอก

ทั้งนี้ขอคำตอบให้พี่น้องประชาชนภายใน 30 วัน