ศึกชิง 2 กรรมการ ป.ป.ช. "ผบช.น. อดีตอัยการ ผู้พิพากษา ทนาย นักข่าว”แห่สมัคร

08 พ.ย. 2566 | 06:56 น.

20 คน “เด่น-ดัง” แห่ชิงเก้าอี้ 2 กรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง “ผบช.น.-อดีตอธิบดีกรมน้ำบาดาล-อดีตอัยการ-ทนาย-นักข่าวใหญ่” พบ 10 คนยื่นใบสมัครทั้ง 2 ตำแหน่ง เปิดรับข้อร้องเรียนถึง 22 พ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2566 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แทน นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา กรรมการ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ตามมาตรา 9 มาตรา 10 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 11 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 จํานวน 1 คน 

ปรากฏว่า มีผู้สมัครรวมจำนวนทั้งสิ้น 16 คน ดังนี้ 1. นายปรีชา พงษ์พานิช อายุ 65 ปี อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตและสำนักงานคดีศาลสูงภาค 1 สำนักงานอัยการสูงสุด  

2.นายประจวบ ตันตินนท์ อายุ 64 ปี ผู้สอบบัญชีอิสระ และอดีตผู้บริหารบริษัทมหาชน 

3.นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง อายุ 65 ปี อดีตรองประธานศาลฎีกา 

4.นายปรีชา บุญโรจน์พงศ์ อายุ 64 ปี ผู้พิพากษาศาลฎีกา อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 9 และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9  

5.นายประหยัด เสนวิรัช อายุ 65 ปี ผอ.สำนักกฎหมายประหยัดทนายความ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา 

6.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง อายุ 58 ปี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจตำรวจนครบาล  

7. นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อายุ 67 ปี อดีตรองอัยการสูงสุด 

8. นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ อายุ 60 ปี อดีตรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 

9. นายวันชัย คงเกษม อายุ 59 ปี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี 

10. นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อายุ 52 ปี ทนายความ และหัวหน้าสำนักกฎหมายดำรงศักดิ์  เครือแก้ว 

11.นายธัญญา เนติธรรมกุล อายุ 60 ปี อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

12.พล.ต.ท.จักรพงษ์ วิวัฒน์วานิช อายุ 60 ปี อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์  โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 

13. นายสาธิต อุไรเวโรจนากร อายุ 61 ปี ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และอดีตกรรมการกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง กกต.) 

14.นายสมโภชน์ โตรักษา อายุ 56 ปี ผู้จัดการฝ่ายข่าว บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด 

15.ว่าที่ร.ต.อำนวย อุปถัมภ์ อายุ 59 ปี ทนายความอิสระ 

และ16.นายสมศักดิ์ วรวิจักษณ์ อายุ 63 ปี ทนายความ กรรมการ บริษัท บริหารสินทรัพย์  ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด 

ขณะที่ในส่วนของการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป.ป.ช. แทน พล.อ. บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ มีรายชื่อผู้สมัคร จำนวน 14 คน ดังนี้ 

1.นายประจวบ ตันตินนท์ อายุ 64 ปี ผู้สอบบัญชีอิสระและอดีตผู้บริหารบริษัท มหาชน 

2. นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อายุ 64 ปี อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด 

3.นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง อายุ 65 ปี อดีตรองประธานศาลฎีกา 

4. นายวิฑูลรย์ ศิริวิโรจน์ อายุ 58 ปี ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย 

5.นายปรีชา บุญโรจน์พงศ์ อายุ 64 ปี ผู้พิพากษาศาลฎีกา อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 9 อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9  

6.นายประหยัด เสนวิรัช อายุ 65 ปี ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายประหยัดทนายความ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา 

7. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง อายุ 58 ปี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจนครบาล 

8.นายธัญญา เนติธรรมกุล อายุ 60 ปี อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล  

9.นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อายุ 67 ปี อดีตรองอัยการสูงสุด  

10.นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อายุ 52 ปี ทนายความ และหัวหน้าสำนักกฎหมายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว 

11. พล.ต.ท.จักรพงษ์ วิวัฒน์วานิช อายุ 60 ปี อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 

12.นายสาธิต อุไรเวโรจนากร อายุ 61ปี ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และอดีตกรรมการกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง กกต. 

13.ว่าที่ร.ต.อำนวย อุปถัมภ์ อายุ 59 ปี ทนายความอิสระ 

14. นายสมศักดิ์ วรวิจักษณ์ อายุ 63 ปี ทนายความ กรรมการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด 

สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่หน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหา กรรมการป.ป.ช.จะส่งรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งพฤติการณ์ทั่วไป 

และเมื่อได้รับผลการตรวจสอบดังกล่าวมาแล้ว คณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาวินิจฉัยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหา หลังจากนั้น จะเชิญผู้สมัครเข้ารับการสรรหาที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และหรือการสัมภาษณ์ผู้สมัครต่อไป

ทั้งนี้ ขอเชิญส่งข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้สมัครเข้ารับการสรรหามายังคณะกรรมการสรรหาได้ที่ ตู้ ปณ. 45 ปณฝ. รัฐสภา กรุงเทพฯ 10305 และทางเว็บไซต์ www.senate.go.th ภายใน วันที่ 22 พ.ย.66