"วราวุธ"ย้ำ"รัฐธรรมนูญใหม่" ต้องรอบคอบระมัดระวัง ช้าช้าได้พร้าเล่มงาม

25 ต.ค. 2566 | 04:21 น.

"รัฐธรรมนูญใหม่" ต้องรอบคอบระมัดระวัง ช้าช้าได้พร้าเล่มงาม "วราวุธ" รมว.พม.-หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ย้ำต้องฟังเสียงประชาชนไม่แตะหมวด 1หมวด2 รัฐธรรมนูญ มองรัฐบาลสลายขั้วเกิดผลดี บริหารประเทศ หากไม่มีฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบไม่ใช่เรื่องที่ดีเช่นกัน

 

กับดักทำลาย ทำร้ายเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ  คือ ความขัดแย้งทางการเมือง  หากประเทศจะก้าวข้ามและนำไปสู่การสลายขั้วร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ให้เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องลดเหลื่อมล้ำ ประชาชนอยู่ดีกินดีมีความสุข ย่อมเป็นเรื่องที่ดีดังปรากฏในยุค"รัฐบาลเศรษฐา" แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะมีผลคะแนนจากการเลือกตั้งเป็นอันดับสองก็ตาม  

 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวในงาน Dinner Talk  Thailand ‘s Future อนาคตประเทศไทย 2024 หัวข้อ “รัฐบาลสลายขั้ว”สลายความขัดแย้งทำได้อย่างไร?ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนแวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์  จัดโดยเครือเนชั่น เมื่อค่ำวันที่ 24 ตุลาคม2566ว่า

วราวุธ ศิลปอาชา

 ต้องเรียนว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ในขณะที่เป็นพรรคชาติไทยนั้น เรามีประสบการณ์ และได้รับการยอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดในประเทศไทยคือรัฐธรรมนูญปี 2540 เกิดจากการที่เราแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา211เมื่อปี 2538สมัย นายบรรหาร ศิลปอาชาเป็นนายกรัฐมนตรี   มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา จนถึงวันนี้ และคิดว่าการจะประกอบร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในยุครัฐบาลนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเป็นรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากภาคประชาชน โดยต้องการจะสลายขั้วการเมืองอย่างไรให้เขียนลงไปในรัฐธรรมนูญ

วราวุธ ศิลปอาชา

แน่นอนว่าขั้วฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกำจัดไปไม่ได้แน่ อย่างไรเสียย่อมมีความเห็นต่างกัน แต่หากได้รับเสียงสะท้อนความคิดเห็นภาคประชาชน ที่จะมาแก้ไขจะเป็น รัฐธรรมนูญใหม่ ที่ดี อย่างไรก็ตามตราบใดที่ ประเทศไทย ยังอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมูข ต้องฟังเสียงประชาชนในสิ่งที่ต้องการ  ส่วนจะใช้เวลากี่ปีต้อง สุดแล้วแต่ ถือว่า จะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขที่แท้จริง

  อย่างไรก็ตามการยกร่างรัฐธรรมนูญพรรคชาติไทยพัฒนาไม่แตะในหมวดที่1และหมวดที่2 ส่วนจะใช้กระบวนการกี่ปี 2ปี3ปี 4ปี ไม่ใช่ปัญหา แต่หากทำเร็วอาจเป็นผลไปขัดกับกฎหมายมาตราอื่นๆและเป็นศูนย์ ในที่สุด เท่ากับที่ทำมาไม่ได้อะไร ในทางตรงกันข้ามมีแต่เสีย “ช้าช้าได้พร้าเล่มงามรอบครอบได้รัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ จากเสียงประชาชน และคนทุกกลุ่ม แล้วขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี่คือหัวใจสำคัญ”

" เมื่อมีรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะปี 2550ปี2560 ประวัติศาสตร์ เขียนโดยผู้ที่ชนะ ดังนั้นการจะร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาจะให้ดีอย่างไร ก็ถูกฉีกไป อย่างรัฐธรรมนูญปี 2540  แม้จะถือว่าดีที่สุดแต่ก็ถูกฉีกทิ้งช่วงรัฐประหารวันที่ 19กันยายน 2549"

ดังนั้นการที่จะประกอบร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ โดยมี  สสร. สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือสสร.  เป็นผู้ประกอบร่าง เพื่อเป็นสภาผู้แทนราษฎร์ใหม่ ต้องมารีไวล์ แต่แนวทางมาจากความคิดที่หลากหลาย มีผู้แทนจากหลายฝ่าย จะเป็นตัวป้องกันที่ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด ตราบใดที่มีมนุษย์ตราบนั้นจะมีความขัดแย้ง  ดังนั้น รอบคอบระมัดระวัง ดังกล่าว

 อย่างไรก็ตามรัฐบาลสลายขั้วที่มีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่นเดียวกับ รัฐบาลชุดปัจจุบัน หลังเลือกตั้ง สามารถจับมือร่วมกันทำงานบริหารประเทศให้เดินต่อได้ แต่หากไม่มีรัฐบาลสองขั้ว คือ ฝ่ายรัฐบาลที่บริหารประเทศ และฝ่ายค้านคือผู้ตรวจสอบ ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเพราะจะไม่มีฝ่ายใดตรวจสอบคัดค้านการทำงานเลย

วงเสวนา มุมมอง"รัฐบาลสลายขั้ว"