เปิดเส้นทาง "ทักษิณ" กลับไทย จากดอนเมืองสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

22 ส.ค. 2566 | 01:20 น.

เปิดเส้นทาง "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทย 22 สิงหาคม 2566 เมื่อถึงสนามบินดอนเมืองจะถูกนำตัวส่งไปศาลฎีกา ฟังคำพิพากษา จบที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 หลังจากหลบหนีอยู่ต่างประเทศยาวนานถึง 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2551

22 สิงหาคม 2566 เมื่อเวลา 06.45 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากประเทศสิงคโปร์ ด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว  ซึ่งจะมาถึงสนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล (MJets) ท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 09.00 น.เช้านี้

น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ว่า และแล้ววันที่พี่รอคอยก็มาถึง 

ตลอดเวลา 17 ปี พี่คงจะรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา ทุกข์ และคิดถึงบ้านมากแต่พี่ก็ต้องอดทน และน้องเชื่อว่าพี่ก็คงใช้เวลาคิดตัดสินใจอยู่นาน แต่สุดท้ายด้วยความคิดถึงครอบครัวและอยากใช้ชีวิตที่ประเทศบ้านเกิดของเรา น้องก็เคารพในการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของพี่ครั้งนี้ น้องขอเก็บภาพความทรงจำที่ได้ร่วมเดินทางจากดูไบมาส่งพี่ จนถึงเครื่องบินก่อนที่จะกลับเมืองไทย 
น้องขอให้พี่โชคดี เดินทางกลับอย่างปลอดภัย ทุกอย่างราบรื่น และอย่าลืมรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะคะ พี่ไม่ต้องห่วงน้องนะ น้องจะเข้มแข็ง อดทน และจะดูแลตัวเองแม้อยู่ในต่างที่ ต่างบ้าน ต่างเมืองคนเดียว เพราะตลอด 6 ปีที่น้องจากบ้านเกิดมา น้องมีพี่คอยดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็อดใจหายไม่ได้ เพราะนี้คือครั้งแรกที่เราไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน 

อย่างไรก็ตามขอให้วันเวลาที่พี่ตั้งตารอที่จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัววันนั้นมาถึงโดยเร็ว โชคดีนะคะพี่ รักพี่เสมอพี่ชายที่แสนดีของน้องค่ะ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่งทักษิณ ชินวัตร กลับไทย

การเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ ที่โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

"อังคารที่ 22 สิงหาคม 9.00 น. ณ ดอนเมือง จะไปรับคุณพ่อทักษิณค่ะ" 

ขณะที่ต่อมา น.ส.แพทองธาร ยังได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์อีกครั้งว่า 

"เลื่อน" ไม่ได้ "ยกเลิก" ไม่เพ้อเจ้อนะจ๊ะ

ก่อนหน้านี้ "ทักษิณ ชินวัตร" มีกำหนดเดินทางกลับไทยวันที่ 10 สิงหาคม 2566 แต่ได้เลื่อนออกไป โดยอ้างว่าหมอนัดไปตรวจสุขภาพ
 

ทักษิณเดินทางออกนอกประเทศ หลังจากเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ไปอยู่ที่อังกฤษ ก่อนเดินทางกลับไทยอีกครั้งเมื่อ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก้มกราบแผ่นดิน หลังเดินทางถึงประเทศไทย เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2551

กระทั่ง 31 กรกฎาคม 2551 นายทักษิณ ได้เดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง โดยขออนุญาต จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ระบุว่าเพื่อไปดู "โอลิมปิกเกมส์" ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน จะเดินทางกลับในวันที่ 11ส.ค. ในปีเดียวกัน จากนั้นนายทักษิณ ก็ไม่ได้กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีกเลย

ก่อนหน้านี้นายทักษิณ โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า

“ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเป็นภาระพรรคเพื่อไทย ผมจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย และวันที่ผมกลับยังเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ ทั้งหมดคือ การตัดสินใจของผมเองด้วยความรักผูกพันกับครอบครัว / แผ่นดินเกิด และเจ้านายของเรา”

ขั้นตอน ทักษิณกลับไทย

การกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางโดยใช้เครื่องบินส่วนตัว ซึ่งตามข้อกำหนดจะต้องมีการขออนุญาต และจองสล็อตการบินล่วงหน้าก่อนทำการบินเข้ามาไม่ต่ำกว่า 3 วัน โดยจะต้องยื่นขออนุมัติจากผู้อำนวยการท่าอากาศยานที่เครื่องบินจะลงจอด คือผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง โดยส่วนใหญ่เครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ หรือ เครื่องบินส่วนตัว จะนำเครื่องขึ้น-ลง ที่สนามบินดอนเมืองเป็นหลัก เพราะสนามบินสุวรรณภูมิ จะเน้นไปที่เที่ยวบินประจำที่มีตารางบินชัดเจน และปกติสนามบินสุวรรณภูมิจะมีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่นอยู่แล้ว ไม่สามารถรองรับเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ หรือ เครื่องบินส่วนตัวได้

เมื่อนายทักษิณเดินทางมาด้วยเครื่องบินส่วนตัวถึงประเทศไทยแล้ว ก็จะต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พิธีการศุลกากรตามระเบียบที่กำหนดไว้ทุกขั้นตอน ซึ่งตามปกติจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปรอรับเพื่ออายัดตัวตั้งแต่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และควบคุมตัวไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองที่สนามหลวง เพื่อรับฟังคำพิพากษา ก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

เส้นทางทักษิณ กลับไทย

การเตรียมความพร้อมรับ "ทักษิณกลับไทย"

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของนายทักษิณที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยระเบียบวาระที่น่าสนใจคือ ระเบียบวาระที่ 2.2 ขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ

สื่อมวลชนหลายสำนักรายงานตรงกันว่าหาก นายทักษิณ เดินทางกลับประเทศไทย จะกลับมาในฐานะ นักโทษชายทักษิณ

ขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย "ทักษิณกลับไทย"

พล.ต.ต.มนตรี แป้นเจริญ ผบก.ตม.2 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดูแลในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดเผยว่า ในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มีการวางแนวทางร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กรณีนายทักษิณกลับไทยไว้แล้ว ซึ่งหน้าที่ในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง คือเมื่อ นายทักษิณ เดินทางเข้าประเทศ ก็จะมีการตรวจสอบหนังสือเดินทางในระบบ ตามขั้นตอนของการเดินทางเข้าเมือง และหากพบว่ามีหมายจับ หรือ เป็นผู้ต้องโทษในคดี ก็จะมีการควบคุมตัวไว้ เพื่อรอส่งตัวให้ทางตำรวจนครบาลไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งทั้งหมด เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนตามปกติ

ขณะที่ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง กล่าวว่า ขั้นตอนการดูแลรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับไทยของนายทักษิณจะยังใช้วิธีการแบบที่เคยประชุมไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา คือ ถ้าอยู่ในเวลาราชการก็จะรับตัวและส่งศาลฏีกาในทันที แต่หากนอกเวลาราชการ ก็จะทำการส่งตัวไว้ที่สถานคุมตัวพิเศษ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีก่อน และจะย้ายตัวไปศาลฏีกาในเวลาราชการ จากนั้นสถานที่สุดท้าย คือ นำตัวไปส่งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

“จากการประชุมที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมพร้อมพื้นที่ เส้นทางการเดินทางทั้งหลักและรอง เป้าหมายการเดินทางตั้งแต่เริ่มต้นควบคุมตัวที่สนามบินดอนเมือง หรือสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสถานที่ต่างๆอย่างรัดกุม” 

กรมกรมราชทัณฑ์เผยขั้นตอนรับตัว "ทักษิณกลับไทย"

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมของกรมราชทัณฑ์ ในกรณีการรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังเดินทางกลับเข้าประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ว่า ขั้นตอนแรกจะเป็นในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่จะรับตัวและทำบันทึกการจับกุมต่างๆตามขั้นตอน

ขณะที่ในส่วนของกรมราชทัณฑ์จะต้องว่าไปตามหมายศาล โดยรอดูว่าจะมีคำสั่งหรือหมายศาลคดีใดแจ้งมายังกรมราชทัณฑ์เพื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้เดินทางไปยังเขตพื้นที่ของศาลนั้นๆ จากนั้นเมื่อนายทักษิณเข้าสู่ขั้นตอนของศาลเสร็จสิ้น หากเป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะควบคุมตัวนายทักษิณมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่ ณ ขณะนี้ทางราชทัณฑ์ยังไม่ได้รับหมายศาลใดๆ

สำหรับกระบวนการจำแนกคัดกรองผู้ต้องขัง แม้จะเป็นกรณีของคุณทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ราชทัณฑ์ก็ดำเนินการตามขั้นตอนทั่วไป เป็นไปตามระเบียบการจำแนกลักษณะผู้ต้องขัง โดยจะมีการตรวจสอบประวัติ ทำทะเบียนประวัติ อย่างไรก็ตาม คุณทักษิณถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ หากเจ้าตัวมีโรคประจำตัวที่จะต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง ทางราชทัณฑ์จะมีแพทย์ประจำเรือนจำฯ ที่จะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการจำแนกผู้ต้องขัง

อย่างไรก็ตาม นายทักษิณถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ หากเจ้าตัวมีโรคประจำตัวที่จะต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง ทางราชทัณฑ์จะมีแพทย์ประจำเรือนจำฯ ที่จะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการจำแนกผู้ต้องขัง โดยจะนำตัวไปยังห้องกักโรคของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทำการกักโรคเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ประมาณ 10 วัน ถัดไปจึงเข้าสู่กระบวนการรักษาโรค ย้ายไปยังหอผู้ป่วย 

ส่วนกรอบระยะเวลาของการรักษาโรคไม่ได้มีกำหนดไว้ จะเป็นในส่วนของแพทย์ประจำเรือนจำที่จะเป็นผู้ประเมินอาการของผู้ต้องขัง และให้ความเห็นเรื่องการรักษาว่าในระหว่างกระบวนการดังกล่าว เจ้าตัวควรแก่การเสร็จสิ้นกระบวนการรักษาแล้วหรือไม่ อย่างไร

เมื่อถามว่าภายหลังจากมีกระแสข่าวออกมาทางด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีการประสานติดต่อมายังกรมราชทัณฑ์หรือไม่ นายอายุตม์ ระบุว่า เบื้องต้นท่านยังไม่ได้มีการประสานมายังราชทัณฑ์แต่อย่างใด

3 คดีที่เหลือที่ศาลพิพากษาจำคุกนายทักษิณ

1. คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว หรือ “คดีหวยบนดิน” ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา

2. คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) อนุมัติปล่อยเงินกู้ 4 พันล้านบาทให้แก่รัฐบาลเมียนมา ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา

3. คดีให้นอมินีถือหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา

กล่าวโดยสรุปคือ เมื่อนายทักษิณเดินทางถึงไทยจะมีการนำตัวนายทักษิณเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปยังศาลฎีกา สนามหลวง เพื่อรับฟังคำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุดแล้ว หลังจากนั้นก็จะนำตัวนายทักษิณออกจากศาลฎีกา (สนามหลวง) ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ