“ก้าวไกล”ชี้“ทักษิณ”กลับไทยเรื่องส่วนตัว ย้ำนิรโทษกรรมเฉพาะคดีชุมนุม

05 มิ.ย. 2566 | 06:08 น.

“ชัยธวัช”เลขาฯ พรรคก้าวไกล ชี้ “ทักษิณ”กลับไทยเป็นเรื่องส่วนตัว ทุกคนมีสิทธิเข้าสู่กระบวนการกฎหมายปกติ ย้ำเสนอนิรโทษกรรมเฉพาะคดีชุมนุมทางการเมือง ไม่เกี่ยวคดีทุจริต-ทำร้ายประชาชน

วันที่ 5 มิ.ย. 2566 ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ออกมายืนยัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยตามกำหนดเดิมภายในเดือน ก.ค.นี้ว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนายทักษิณ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร

“แต่หากจะกลับมา ก็มีกระบวนการทางกฎหมายรองรับ ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายตามปกติ” 

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า สำหรับกฎหมายนิรโทษกรรมที่พรรคก้าวไกลเตรียมเสนอเข้าสภานั้น ยืนยันว่าเป็นคนละส่วนกัน ซึ่งข้อเสนอเรื่องนิรโทษกรรมให้กับบุคคลที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองที่พรรคก้าวไกลเสนอ จะเกี่ยวข้องกับคดีที่แสดงออกทางการเมืองเท่านั้น ไม่รวมคดีทุจริต หรือ การทำร้ายประชาชน

ก่อนหน้านี้ ช่วงดึกวันที่ 1 มิ.ย. 2566 รายการ “คุยแหลก แดกดึก” ของ นายคชาภา ตันเจริญ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพิธีกร ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์ ถึงกระแสการกลับบ้าน หากกลับมาต้องติดคุก 

โดยนายทักษิณ กล่าวว่า ยังไงก็ได้ ยังไงก็กลับ ส่วนจะเป็นเดือน ก.ค นี้หรือไม่นั้น ตนพูดไปแล้ว ยืนยันไปแล้ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวจะเป็นคนบอกว่าวันที่เท่าไร และเวลาเท่าไร

โดยเหตุผลที่อยากกลับ เพราะตนมีหลาน 7 คนแล้ว ถึงเวลาต้องไปเลี้ยงหลานแล้ว พ่อแม่ เป็นวัยต้องไปทำงาน ปู่ย่าตายาย มีหน้าที่ต้องเลี้ยงหลาน เพื่อให้พ่อแม่ ได้ทำงานได้เต็มที่

เมื่อถามว่ามีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า แก่แล้ว หมดสมัย วันนี้เป็นยุคคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่ยุคคนแก่ คนแก่บางทีแนะนำก็อย่าไปบังคับ เพราะเราไม่ทันเด็ก คนแก่แม้เข้าใจเด็กแต่เข้าใจแบบคนเรียนภาษาอังกฤษในประเทศไทย มันสู้คนโตเมืองนอก ที่รู้ภาษาอังกฤษ แล้วพูดภาษาอังกฤษแตกฉานไม่ได้ คล้ายๆ อย่างนั้น ไม่ใช่เอาคนแก่ มาบอกเข้าใจคนรุ่นใหม่ แล้วบอกเข้าใจ แต่เข้าใจไม่ลึกซึ้ง

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร เคยบอกว่าพ่อไม่ต้องมายุ่งแล้ว นายทักษิณ กล่าวว่า ใช่ พ่อแก่แล้ว ให้คนรุ่นใหม่เขาคิด เราให้คำแนะนำจากประสบการณ์ แต่อย่าไปบังคับ สมัยพ่อทำอย่างนี้ ลูกต้องทำอย่างนี้ ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเจ๊งเลย เพราะมันไม่เหมือนกัน วิธีคิด ภาษาพูด อยากเห็นอนาคตแบบไหนของคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าไม่เหมือนกัน

เราประวัติเยอะ อดีตเยอะ อนาคตสั้นจุ๊ดจู๋ คนรุ่นใหม่อดีตน้อย แต่อนาคตยาวนาน เขาจะมองอนาคตเขา ได้ดีกว่าที่เรามอง เพราะอนาคตเรามันสั้น

ถามว่าถึงเวลาสำหรับโลกใบใหม่แล้ว นายทักษิณ กล่าวว่า ใช่ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Paradigm Shift คือ วิธีคิดมันเปลี่ยนไปมาก คนรุ่นเก่าเราคิดว่าพยายามตามทุกอย่าง ตนอ่านหนังสือเยอะ มันได้ระดับหนึ่ง ไม่ได้ระดับลึกซึ้งเท่ากับวัยเขาคิดกัน